รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นโซนคันไซ #11 เดินเล่นถนนสายช้อปปิ้ง Shinsaibashi ป้ายกูลิโกะที่ถนนโดะทนโบะริ พร้อมวิธีเดินทาง
สำหรับใครมาเที่ยวโอซาก้าแล้วก็คงไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ ซึ่งเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าไปซะแล้ว ตัวผมก็เช่นกันครับ เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง ก็ต้องมาเดินเล่นแถวนี้ซะหน่อยครับ สำหรับย่าน Shinsaibashi ที่มีร้านค้าให้เลือกช็อปปิ้งมากมาย รวมทั้งร้านอาหารดังๆอีกด้วยเดียวไปเดินเล่นกับผมกันเลยครับ
สำหรับวิธีเดินทางมา Shinsaibashi และป้ายกูลิโกะที่ถนนโดะทนโบะริ ก็สามารถมาได้หลายทางครับเช่น
นั่ง Subway ไปลงที่ Namba ออกทาง exit 14
นั่ง Subway ไปลงที่ Nippombashi ออกทาง exit 2
นั่งJR ลงสถานี JR Namba แล้วเดินตามป้าย Namba walk แล้วออกตรงทางออกถนน Mido-Suji (จะเดินใกล้กว่ารถไฟใต้ดิน)
ส่วนการเดินทางของผมนั้นเริ่มจากปราสาทโอซาก้าครับ เพระว่าตอนที่แล้วผมได้มาเที่ยวนี่ครับ โดยหาข้อมูลรถๆฟไว้คร่าวๆแล้วตามรูปด้านบน โดยจะต้องรถไฟ 2 ต่อครับ นั้งของ JR ไปลงที่ Tsuruhashi จากนั้นก็ไปต่อรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Namba ครับ อาจจะดูยุ่งยากไปหน่อย แต่พอเดินทางจริง ก็ไม่ได้ยากเลยครับ เดียวไปชมกันเลยครับผม
ออกมาจากปราสาทโอซาก้าผมก็กลับมานั่งรถไฟที่สถานี JR Osakajokoen ครับแล้วนั่งต่อไปลงที่สถานี Tsuruhashi ครับ
เมื่อลงรถไฟแล้วก็ให้เดินตามป้ายรถไฟใต้ดินครับ เดียวจะต้องต่อรถไฟใต้ดินไปลงที่นัมบะ
รถไฟใต้ดิน (Subway) ให้เดินตามป้ายไปทางซ้ายมือตามภาพเลยครับ
มาถึงสถานีรถไฟใต้ดินแล้วผมต้องทำการซื้อตั๋วก่อนครับ เพราะว่าพาสที่ผมใช้นั้น นั่งรถไฟใต้ดินไม่ได้ครับ ก็มาดูว่าสถานที่ผมจะไปนั้นราคาเท่าไหร่ ตามภาพด้านบนสถานี Namba ราคา 180 เยนครับ
เมื่อรู้ราคาแล้วก็มาซื้อตั๋วจากตู้ครับ อันดับแรกก็กดเลือกว่าจะซื้อตั๋วกี่ใบ จากนั้นก็เลือกราคาที่เราต้องการ ผมกด 180 ครับ
จากนั้นให้ใส่เงินเข้าไป ตั๋วรถไฟใต้ดินก็จะออกมา พร้อมเงินทอนครับ ก็เป็นวิธีซื้อตั๋วรถไฟที่ญี่ปุ่นง่ายๆครับ เดียวไปขึ้นรถไฟกันเลยครับ
วิธีการใช้รถไฟใต้ดินก็เหมือนบ้านเราครับ นำตั๋วสอดเข้าไป แล้วก้ไปรับคืนอีกฝั่ง
ต้องไปรอขึ้นที่ฝั่งเบอร์ 2 ครับ ถ้าใครไม่รู้ว่าจะต้องขึ้นฝั่งไหน ก็ให้สังเกตุง่ายๆครับ ที่ป้ายจะเขียนสถานีว่าจะไปทางไหน ผ่านสถานีอะไรบ้าง ตัวอย่างด้านบน ไป Namba ก็ขึ้นได้ที่ฝั่งเบอร์ 2 ครับ
รถไฟมาแล้วก็ขึ้นได้เลยครับ
เมื่อมาถึงสถานี Namba ก็ให้เดินออกที่ทางออกหมายเลข 14 ครับ เดินตามป้ายเหมือนเดิมครับ ไม่หลงแน่ๆ
เจอป้ายเบอร์ 14 ก็เดินขึ้นไปเลยครับ
เมื่อเดินขึ้นมาถึงด้านบน ก็ให้เดินกลับหลังมาทางนี้ครับ จากนั้นให้เดินตรงไปเลย เดียวจะชมป้ายกูลิโกะกันครับ
เดินมาถึงเจอแยกแรกให้เลี้ยวขวาครับ มองไปก็จะเจอร้านปูยักษ์แล้วครับ ป้ายกูลิโกะจะอยู่แถวๆนั้นครับ
ให้เลี้ยวซ้ายตรงร้านปูยักษ์นี้ครับ จะเจอกับสะพานข้ามคลองซึ่งป้ายกูลิโกะจะอยู่ตรงนั้นครับ
 |
| ป้ายกูลิโก๊ะยักษ์ (Glico Man sign) |
แล้วก็มาถึงแล้วครับสำหรับสิ่งที่ตามหา ป้ายกูลิโก๊ะยักษ์ (Glico Man sign)
สำหรับ ป้ายกูลิโก๊ะยักษ์ (Glico Man sign) ได้ติดตั้งครั้งแรกในปี ค.ศ. 1935 เป็นป้ายในแนวสูง แล้วก็มีการเปลี่ยนรูปแบบของป้ายมาเรื่อยๆ จนถึงป้ายปัจจุบัน เป็นป้ายรุ่นที่ 5 แล้วครับ
มีเรือนำเที่ยวด้วยครับ
 |
| ป้ายกูลิโก๊ะยักษ์ (Glico Man sign) |
ร้านค้ามากมายถนนสายช็อปปิ้ง Shinsaibashi
 |
| Shinsaibashi |
สำหรับใครที่ชอบซื้อของมาเดินที่ถนนสายช้อปปิ้ง Shinsaibashi ป้ายกูลิโกะที่ถนนโดะทนโบะริ ก็คงจะได้ของไปเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง หรือว่าร้านของฝาก ร้านดองกี้ เดียวตอนหน้าผมจะไปพาไปดูร้านอาหารกันบ้างครับ ย่านนี้ร้านอาหารเยอะมากๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น