มาเที่ยวต่อกันในตอนที่ 6 ครับ....หลังจากตอนที่แล้วผมพาไปทานมันปูย่างร้าน isomaru suisan สาขาตลาด ameyoko จากนั้นก็เดินเล่นช็อปปิ้งก่อนกลับไปเก็บของที่โรงแรมเพื่อเตรียมเดินทางในวันนี้ ใครที่ยังไม่ได้ชมก็อ่านได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/isomaru-suisan-Ueno.html ครับผม
มาถึงเช้าวันใหม่ ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของผมที่มาเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ครับ โดยโปรแกรมเที่ยววันนี้ผมจะนั่งรถไฟ SHINKANSEN ไปที่เมือง karuizawa เพื่อไปเที่ยวและนอนค้างที่นี่ 1 คืนครับ โดยผมจะทำการเช็คเอาท์ออกจาก โรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho จากนี้ไปผมจะไม่ได้นอนที่โตเกียวแล้วครับ เดินทางกันยาวๆเลย กลับมาที่โตเกียวอีกทีก็วันสุดท้ายของทริปเลย
วิวจากห้องพักของโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ผมว่าก็สะดวกดีนะครับใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ราคาไม่แพง
มีอาหารเช้าชุดเล็กๆให้ทาน ถือว่าเป็นอาหารเบาๆต่อนรับวันใหม่ครับ
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็ถึงเวลาเดินทางแล้วครับ โดยผมจะต้องไปขึ้นรถไฟ SHINKANSEN ที่สถานีโตเกียวครับ ตอนแรกว่าจะนั่งรถไฟใต้ดิน 2 ต่อไปเหมือนขามาโรงแรม แต่เนื่องจากช่วงที่ผมออกเดินทางเป็นช่วงเช้าของวันทำงาน เกรงว่ารถไฟคนจะแน่น และยังมีกระเป๋าในใหญ่อีก 2 ใบ เลยตัดสินใจว่าจะนั่งแท็กซี่ไปดีกว่าครับ
ซึ่งจากโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ไปยังสถานีโตเกียวนั้นก็ไม่ไกลครับ
ระยะทางประมาณกิโลกว่าเท่านั้นเอง ข้อดีของหารนั่งแท็กซี่ก็คือ เราไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้น-ลงสถานี ไม่ต้องเดินต่อรถไฟ ยิ่งช่วงเช้าคนเยอะมากครับ ถ้าเดินทางใกล้ๆแท็กซี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับส่งถึงที่เลยไม่ต้องให้เมื่อย
มายืนเรียกรถแท็กซี่อยู่ริมถนนหน้าโรงแรม
แท็กซี่ไปทุกคันนะครับ ไม่มีแวะเติมแก๊ซ ฮ่าๆ... ผมเอากระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ขนาด 22 นิ้ว และ 26 นิ้ว ไว้ที่กระโปรงหลังครับ
รถไม่ติดเท่าไหร่ นั่งมาประมาณ 5-7 นาทีเท่านั้นเอง
แท็กซี่มาส่งที่หน้าสถานีโตเกียว ค่าแท็กซี่ 890 เยนครับ
เมื่อมาถึงสถานีโตเกียว ผมจะแวะเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 26 นิ้ว ที่ใส่เสื้อผ้าใช้แล้วและของฝากต่างๆที่แวะซื้อตั้งแต่วันแรกมาใส่ล็อคเกอร์ไว้ครับ เพื่อความคล่องตัว โดยผมจะฝากไว้ 5 วันครับ จะมาเอาออกอีกทีก็ตอนที่กลับมาจาก Sapporo ครับ
ตอนนี้ผมก็เหลือแค่เป้สะพายหลังคนละใบกับกระเป๋าเดินทาง 22 นิ้ว เพื่อเดินทางเที่ยวต่ออีก 5 วันที่เหลือ ยอมเสียค่าล็อคเกอร์วันละ 600 เยนเพื่อความคล่องตัว เพราะผมต้องเดินไปถ่ายรูปไปตลอด
หลังจากที่จัดการเรื่องกระเป๋าเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางแล้วครับ โดยวันนี้จะเป็นอีกวันที่ผมจะใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass ในการเดินทาง
เดินตามป้าย SHINKANSEN ไปได้เลยครับ
สำหรับรถไฟที่จะไปยัง karuizawa ผมได้ทำการจองล่วงหน้ามาจากเมืองไทยแล้วครับ ใครยากจองมาก่อนก็ดูรีวิววิธีจองได้ที่ >> http://www.mu-ku-ra.com/2018/02/jrpass-train-reservation.html ครับ
ขบวนที่ผมจะขึ้นก็คือ SHINKANSEN ASAMA 605
ออกจาก TOKYO เวลา 09:44 [ Departure track No.20 ]
ถึง KARUIZAWA เวลา 11:02
โดยผมจะต้องไปรอขึ้นรถที่ track No.20 ก็ให้เดินตามป้ายไปได้เลย
track No.20 - 23 ไปทางนี้ครับ เดินตามป้ายไม่หลงแน่นอนครับ
วิธีการเข้าไปในส่วนของสถานี SHINKANSEN ก็แค่โชวร์พาสให้เจ้าหน้าที่ดูครับ
ถึงแล้ว track No.20 เดินขึ้นไปได้เลย
อันนี้คือตั๋วที่ผมจองมาครับ รายละเอียดในตั๋วจะบอกชื่อขบวนรถไฟ เวลาออก เวลาถึง หมายตู้รถไฟของเรา และหมายเลขที่นั่งของเราครับ ตัวอย่างตั๋วของผมก็คือ
ชื่อขบวนรถไฟ : SHINKANSEN ASAMA 605
เวลาออก : TOKYO เวลา 09:44
เวลาถึง : KARUIZAWA เวลา 11:02
หมายเลขตู้ : 6
หมายเลขที่นั่ง : 15B
ความจะมารอรถไฟล่วงหน้าซัก 10 นาทีนะครับ เพื่อความชัวร์กันพลาด
ยืนรอตามหมายเลขตู้ของเราครับ ของผมตู้หมายเลข 6
มาแล้วครับรถไฟ SHINKANSEN ASAMA 605 ที่จะพาผมไปยัง karuizawa
เมื่อขึ้นไปบนรถไฟก็ไปนั่งตามหมายเลขของเราครับ
มีที่ชาร์ตให้ด้วยนะครับ บนรถไฟ
ใครเดินทางเช้าๆก็สามารถซื้ออาหารมาทานบนรถไฟได้ ผมเดินผ่านร้านกาแฟในสถานีโตเกียวดูน่าทานเลยซื้อมาครับ แซนวิสอร่อยมากราคาไม่แพงด้วย
ห้องน้ำบนรถไฟ SHINKANSEN สะอาดมากเลยครับ
ใช้เวลาเดินทาง 78 นาทีครับ ระยะทาง 147 กิโลเมตร
ถึงแล้วครับสถานี karuizawa
วิธีออกจาสถานีก็เหมือนเดิมครับโวช์พาสกับเจ้าหน้าที่ อย่าเอาตั๋ว SHINKANSEN ไปเสียบช่องออกนะครับ มันใช้ไม่ได้ แฮ่ๆ ใครที่ใช้พาสไม่ว่าจะพาสอะไรก็ต้องเดินออกช่องที่มีเจ้าหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น
จากสถานี karuizawa ต้องออกทางออก south exit ครับ
เดินออกมาก็จะเจอแบบนี้ครับ เดียวต้องลงไปข้างล่าง ที่เห็นๆหลังคาสีน้ำตาลก็คือร้านค้าทั้งหมดเลยนะครับเยอะจริงๆ
เดินลงมาตรงป้ายรถแท็กซี่จะมีแผนที่บอกครับ ว่าอะไรไปทางไหนบ้าง
จากแผนที่ด้านบนจะเห็นได้ว่ามันใหญ่มากๆครับ มีทุกแบร์นทุกยี่ห้อเลย ใครอยากดูแผนที่แบบชัดๆก็สามารถดูได้ที่ >> http://karuizawa-psp.jp/web/plazaguide/en/#block03 ครับ
ก่อนที่ผมจะเดินเล่นที่ karuizawa prince shopping plaza เพื่อความคล่องตัวอีกเช่นเดิม ผมจะเอากระเป๋าเดินทางขนาด 22 นิ้วไปฝากล็อคเกอร์ไว้ครับ จะกลับมาเอาอีกทีก็พรุ่งนี้เลย เพราะคินนี้ผมจะนอนที่ karuizawa ก็แค่เอาเสื้อผ้าที่จะใส่ของวันพรุ่งใส่เป้ไป แค่นี้ก็สบายแล้วครับ ไม่ต้องคอยลากกระเป๋าไปไหนมาไหน
ล็อคเกอร์จะอยู่บริเวณช็อปของไนกี้ครับ
“Karuizawa Prince Shopping Plaza” หรือที่เราเลือกกันติดปากว่า karuizawa outlet นั้นเป็นแหล่งรวมร้านแบรนเนมชื่อดังมากมาย อาทิ Coach, Burberry, Paul Smith, Tod’s, Alexander McQueen, Lanvin, Gucci, Kate Spade, Tory Burch, Swarovski, Michael Kors, Bvlgari ตลอกจนถึงสินค้ากีฬาต่างๆ เช่น Nike และ Adidas รวมแล้วกว่า 240 ร้านค้า และมีถึง 104 ร้านที่เป็นร้านค้าปลอดภาษี
สามารถดูชื่อร้านค้าทั้งหมดได้ที่ >> http://karuizawa-psp.jp/web/plazaguide/en/
เดียวผมจะลงรูปรัวๆเลยนะครับเพราะว่าร้านค้าเยอะมากจริงๆ จะถ่ายมาให้ดูครบทุกร้านก็คงไม่ไหว ฮ่าๆ...
ช็อป Nike และ Adidas อยู่ติดๆกันเลยครับ
Adidas จะมี 2 ที่นะครับ ร้านนี้ของจะใหม่กว่า แต่ราคาก็ปกติทั่วไป
คู่ไหนที่ติดป้ายสีแดงก็คือจะลดราคา
ที่ karuizawa prince shopping plaza จะมีหลายโซนนะครับ เพื่อเป็นการคุมเวลา ผมแนะนำว่าให้ดูจากแผนที่ก่อนว่าร้านที่เราต้องการไปดูอยู่ตรงไหน ถ้าไปเดินหาหน้างานมันจะเสียเวลามากเลยครับ อากาศหนาวมากๆด้วยด้านนอก
ร้านค้าเยอะจริงๆ ฮ่าๆ
ของแบรนด์เนมต่างๆจะอยู่โซนนี้ครับ เลือกช็อปกันได้เลย
ถ้าเดินช็อปกันจนเมื่อยหรือหิว ที่ karuizawa prince shopping plaza ก็มีศูนย์อาหารหรือ Food Court บริการนะครับ โดยจะอยู่ใกล้ๆกับช็อปของ Gucci
ตรงนี้หละครับเดินเข้าไปได้เลย
มีร้านให้เลือกทานมากมายครับ อาทิเช่น ร้านซุชิซาชิมิ Tsukiji Harenohi, ร้านเนื้อย่าง Aging Beef, ข้าวหน้าหมูทอด Sauce Katsudon Meijitei, ร้านโซบะ Shinshu Sobadokoro Yamahei
คนค่อนข้างจะเยอะเลยทีเดียว
เลือกทานตามใจชอบเลยครับ ราคาอาหารประมาณ 700 - 1000 กว่าเยนครับ อยู่ที่เมนูที่เราเลือก
ผมจัดราเมนร้อนๆมาซดน้ำ อากาศที่ karuizawa นี่หนาวมากจริงๆครับ ต้องหาอะไรร้อนๆมาทานซักหน่อย
ก็ถือว่า karuizawa prince shopping plaza หรือ karuizawa outlet เหมาะกับคนที่ชอบช็อปปิ้งมากๆครับ มีของให้ซื้อทุกยี้ห้อเลย ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองแวะมาเที่ยวได้ครับ โดยเฉพาะคนที่ใช้พาสยิ่งคุ้มเลย ออสำหรับ jr tokyo wide pass พาสยอดนิยมก็สามารถมาได้นะครับ
แผนที่ karuizawa prince shopping plaza หรือ karuizawa outlet
เดียวรีวิวตอนต่อไปผมจะพาไปแช่ออนเซ็นบนเขากลางหิมะที่ โรงแรม Manza Kogen Hotel ครับซึ่งวิธีไปก็ไม่ยากครับ มีรถรับ-ส่ง จากสถานี karuizawa นี่หละครับ สวยมากๆครับแนะนำเลยโรงแรมนี้ไม่แพงด้วย
สำหรับใครที่ติดตามรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวของผมในครั้งนี้ก็ไปชมรีวิวทุกตอนที่รวบรวมไว้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/review-japan-2018.html ได้ครับไล่อ่านทีละตอนเพื่อความต่อเนื่อง
ชมรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทั้ง 18 ตอนอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #01 รีวิววิธีเดินทางจากสุวรรณภูมิด้วย Hong Kong Airlines ต่อเครื่องไปลงนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #02 รีวิวโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #03 พาชิมราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen สาขา Ueno พร้อมวิธีสั่งและวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #04 พาเที่ยวสวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura)ตัดแล้วกินสดๆจากต้น พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #05 เดินเล่นย่าน Ueno พาชิมมันปูย่างร้าน isomaru suisan สาขาตลาด ameyoko
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #06 พาเดินเที่ยว karuizawa outlet มีทุกแบรนด์ช็อปปิ้งพร้อมวิธีเดินทางจากโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #07 รีวิวโรงแรม Manza Kogen Hotel แช่ออนเซ็นกลางหิมะ พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #08 รีวิววิธีเดินทางไป HAKODATE ด้วย JR East-South Hokkaido Rail Pass ไม่ยากเลย
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #09 รีวิวโรงแรม Hotel Sharoum-inn 2 ที่พักราคาถูกใกล้สถานี JR HAKODATE
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #10 รีวิวพาเที่ยว HAKODATE 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #11 เดินทางไป Sapporo พาเที่ยว Tenguyama Ropeway ชมวิวคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #12 รีวิวโรงแรม Hotel Sunroute Sapporo ที่พักราคาไม่แพง ใกล้สถานี Jr Sapporo
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #13 พาเที่ยว Sapporo 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #14 ไปชิมราเมง ที่ตรอกราเมน Ramen Alley Sapporo พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #15 รีวิววิธีเดินทางจาก Sapporo ยิงยาวไปสนามบิน Narita ด้วย JR East-South Hokkaido
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #16 รีวิวโรงแรม Narita Airport Rest House ที่พักใกล้สนามบิน มีรถรับ-ส่ง สะดวกมากๆ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #17 กลับไทยด้วย Hong Kong Airlines พร้อมวิธีและขั้นตอนต่างๆ ที่สนามบินนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #18 พาเที่ยว HongKong 1 วัน ระหว่างรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพ พร้อมวิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น