มาถึงรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 13 กันแล้วครับ...ตอนนี้จะพาไปเที่ยว Sapporo ใน 1 วัน ไปไหนได้บ้างมาดูกันเลยครับ สำหรับใครยังยังไม่ได้ชมรีวิวตอนที่แล้วก็สามารถชมได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/Hotel-Sunroute-Sapporo.html ครับเพื่อความต่อเนื่อง
วันนี้เป็นที่วัน 2 ของผมที่เมือง Sapporo ครับมีเวลาเที่ยวเต็มๆวันเลย ทีแรกตั้งใจจะออกแต่เช้า แต่เนื่องจากความเพลียทำให้ตื่นสายแพลนเที่ยวที่ทำไว้เลยต้องปรับเปลี่ยน กะว่าจะทานอาหาเช้าที่ตลาดปลาก็อดไป แฮ่ๆ
ผมออกจาก โรงแรม Hotel Sunroute Sapporo ประมาณ 10 โมงกว่าได้ครับ เดินมาที่สถานีรถไฟ JR Sapporo ใช้เวลาประมาณ 6-7 นาที
ที่ชั้นใต้ดินของสถานี Sapporo จะมีซูปเปอร์มาร์เก็ตอยู่นะครับ มีของขายทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น ขนม ผลไม้ อาหารต่างๆ สามารถมาหาซื้ออะไรทานก่อนออกเดินทางได้ครับ
ชอบทานอะไรมีหมดเลยครับ
อาหารกล่องทำใหม่ๆร้อนๆทั้งนั้นเลย
สตอเบอรี่ลูกใหญ่ๆ มีให้เลือกหลายแบบเลย
หลังจากที่ผมเดินหาอะไรทานลองท้องก็ถึงเวลาลุยแล้วครับ สำหรับโปรแกรมเที่ยว Sapporo 1 วัน ที่ผมวางไว้ก็ประมาณนี้ครับ
- โรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park
- Sapporo Beer Museum
- ทำเนียบอิฐแดง
- สวน Odori
- Sapporo TV Tower
- ตรอกราเม็ง (Ramen Alley)
- ย่านช็อปปิ้ง Susukino
การเดินทางใน Sapporo ของผมวันนี้ผมจะใช้ Subway แบบ 1 Day Pass ครับ เผื่อหลงทางขึ้นผิดลงผิด ฮ่าๆ
สามารถกดตั๋วได้จากตู้เลยครับราคา 830 เยนครับ นั่งรถไฟใต้ดินได้ไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน
![]() |
ภาพจาก sapporostation |
รถไฟใต้ดินที่ Sapporo จะมีเพียงแค่ 3 สายครับ
- Namboku Line (สายสีเขียว)
- Tozai Line (สายสีส้ม)
- Toho Line (สายสีฟ้า)
ใครเคยนั่งรถไฟเที่ยวที่โตเกียวมาแล้วก็สบายเลยครับ ที่นี่มีแค่ 3 สายเท่านั้น
สำหรับการเดินทางไปยัง โรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park นั้นต้องนั่งสาย Tozai Line (สายสีส้ม) ไปลงที่สถานี Miyanosawa Station ครับ แต่ตอนนี้ผมอยู่สถานี Sapporo สายสีส้มไม่ผ่าน เลยต้องนั่งรถไฟไปต่อที่สถานี Odori ครับ
จากสถานี Sapporo ไปสถานี Odori ก็แค่สถานีเดียวเองครับ
เมื่อถึงสถานี Odori ก็ให้เดินตามป้าย Tozai Line ครับ
เดียวเราจะต้องไปนั่งรถไฟสาย Tozai Line ไปลงที่สถานี Miyanosawa Station
ขึ้นให้ถูกฝั่งนะครับ ตามป้ายจะเขียนไว้ว่า for Miyanosawa รอขึ้นตรงนี้ได้เลย
รถไฟมาแล้วครับ
ใครที่มาเที่ยวโรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park ก็ไม่น่าจะหลงนะครับ เพราะว่าเราจะลงที่สถานีสุดท้ายเลย T01 Miyanosawa
เมื่อถึงแล้วก็บัตรรถไฟที่ซื้อมาสอดเพื่อออกไปด้านนอกสถานีครับผม
สำหรับ โรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park ต้องออกทางออกหมายเลข 5 ครับผม เดินตามป้ายมาได้เลยครับ
เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้วก็จะเจอกับ 4 แยกตามรูปด้านบนนี้ครับ ให้เดินกลับหลังมาทางขวามมือนะครับ ไม่ต้องข้ามถนนใดๆทั้งสิน
เดินไปตามถนนนี้ครับ เดินไปจนถึง 4 แยกอีกแยกนึง
เมื่อเดินมาถึงแยกนี้แล้วก็ให้เลี้ยวขวาครับ
เลี้ยวขวามาแล้วเราก็จะมองเห็นโรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park ไม่ไกลแล้ว
ข้ามถนนมายังโรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Parkครับ
เที่ยว Sapporo 1 วัน : โรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park
โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park) เป็นโรงงานของบริษัท Ishiya บริษัทช็อกโกแลตของท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของบริษัท คือ คุ้กกี้ Shiroi Koibio ของฝากที่นิยมของฮอกไกโด (คุ้กกี้เนยสอดไส้ช็อกโกแลตขาว)
ภายในบริเวณสวนสนุกประกอบด้วย ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์โรงงานช็อกโกแลตพร้อมจำหน่ายช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบ ซึ่งผู้เข้าชมสามารถสังเกตกระบวนการผลิตคุ้กกี้ หรือเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อปทำคุ้กกี้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีสนาม Shiroi Koibito Park สนามฟุตบอลที่เคยเป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลท้องถิ่น J-League อีกด้วย
ทางเข้าจะอยู่ตรงนี้ครับ
ที่โรงงานช็อกโกแลตแห่งนี้คนจะเยอะพอสมควรนะครับ เนื่องจากจะมีทัวร์มาลงอยู่เรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศครึกครื่นดีทีเดียวครับ
ถ้าใครจะเข้าชมส่วนที่ทำช็อกโกแลตต้องเสียค่าเข้าชม 600 เยนครับ แต่ผมเดินชมแต่โซนที่ให้ชมฟรีครับ
มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะเลยครับ
แถวนี้คือฟรีโซน สังเกตจะเป็นบันไดพรมแดง ซึ่งก็คือสิ้นสุดส่วนของที่เค้าจัดแสดงไว้นั่นเอง ใครที่ไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมโรงงาน จะเดินมาซื้อขนม ของฝากตรงจุดนี้เลยก็ได้
มีโชว์การทำลูกอมให้ชมฟรีด้วยครับ
ได้รับความสนใจเยอะเลยครับ เนื่องจากชมฟรี
ด้านบนก็สามารถเดินขึ้นมาได้ถึงแค่ชั้น 2 นี้ครับ
เจอซูปเปอร์สตาร์ของเมืองไทยด้วยครับ เจ ชนาธิป ที่มาเล่นฟุตบอลกับสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร
มีไอสครีมขายที่บริเวณชั้น 1 หอมอร่อยมากครับ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นสนามฟุตบอลที่สโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะมาฝึกซ้อมกันครับ ใครอยากเจอ เจ ชนาธิป ก็มาแวะดูได้ครับ แต่ผมมาช่วงหน้าหนาวสนามบอลมีแต่หิมะ ทีมเลยย้ายไปซ้อมที่อื่นกัน
โรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park
ค่าเข้าชม: 600 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-18:00 (เข้าก่อน 17:00)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
การเดินทาง :Subway Miyanosawa เดินต่อ 7 นาที
หิมะท่วมสนามบอลเลยครับ ฮ่าๆ
หลังจากที่ออกจาก โรงงานช็อกโกแลต Shiroikoibito Park ผมก็เดินกลับมาที่สถานี Miyanosawa ตามเดิมครับผม เดียวผมจะไปต่อที่ Sapporo Beer Museum ครับ
อันดับแรกต้องนั่งกลับไปที่สถานี Odori ก่อนครับ
การเดินทางไปยัง พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร Sapporo Beer Museum สามารถไปได้หลายวิธีครับส่วนมากนะนั่งรถบัสไปกัน แต่ผมซื้อบัตรรถไฟแบบ 1 Day แล้วเลยจะใช้ให้คุ้ม เลยเลือกวิธีนั่งรถไฟใต้ดินไปครับวิธีนี้อาจจะเดินไกลนิดนึงนะครับ
ต้องนั่งสาย Toho Line (สายสีฟ้า) ไปลงที่สถานี Higashi-kuyakusho-mae Station ครับ
เดินตามป้าย Toho Line ได้เลยครับ
นั่งเพียง 3 ป้ายครับจากสถานี Odori
รถไฟมาแล้วครับ สีฟ้า สีเดียวกับสายรถไฟ
นั่งมาเพียง 3 สถานีมาลงที่ Higashi-kuyakusho-mae Station ครับ
จากนั้นให้เดินออกทางออกหมายเลข 4 ครับ
ขึ้นมาด้านบนแล้วก็ให้เดินตรงอย่างเดียวเลยครับ ข้ามแยกไป 2 แยะ
จะเดินผ่านสวนสาธารณะตรงนี้
และก็จะเจอแยกที่ 3 ให้ข้ามถนนและเดินตรงไปครับ
เมื่อข้ามถนนให้เดินตรงไปเลยครับ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร Sapporo Beer Museum จะอยู่ทางขวามือครับ
ผมใช้เวลาเดินมาประมาณ 15 นาทีได้ครับ เดินเรื่อยๆนะครับ ไม่ได้รีบอะไร
มาถึงแล้วครับผมพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร Sapporo Beer Museum
เที่ยว Sapporo 1 วัน : พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร Sapporo Beer Museum
ฮอกไกโดเป็นแหล่งผลิตเบียร์ครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น เมืองซัปโปโรจึงเป็นแหล่งผลิตที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นยี่ห้อที่นิยมที่สุดในประเทศ ซึ่งมีการกลั่นเบียร์ตั้งแต่ ปี 1877 มาจนถึงปัจจุบัน และยังส่งออกไปทั่วโลกอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร(Sapporo Beer Museum) เปิดเมื่อปี 1987 ในสมัยเมจิเคยเป็นโรงกลั่น ภายในพิพิธภัณฑ์จะแนะนำประวัติของเบียร์ในญี่ปุ่น และกระบวนการขั้นตอนการผลิตเบียร์ (แต่ไม่ค่อยมีข้อมูลภาษาอังกฤษมากนัก) หลังนิทรรศการมีให้ชิมเบียร์ฟรี
ถัดจากพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งของสวนเบียร์ซัปโปโร(Sapporo Beer Garden) ประกอบด้วยร้านอาหาร 2 ร้าน คือ Garden Grill และ Genghis Kan Hall มีบรรยากาศสบายๆกับการดื่มเบียร์ และรับประทานบาร์บีคิวเนื้อแกะ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่นิยม
ส่วนนี้จะเข้าชมฟรีนะครับ เดินเข้าไปด้านในได้เลย
ส่วนพิพิธภัณฑจะอยู่ชั้นบนครับ
อันนี้น่าจะเป็นถังหมักเบียร์ใหญ่มากๆ
มีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายด้วยครับแต่เป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่รู้เรื่องฮ่าๆ
เดินชมไปเรื่อยๆก็เพลินดีครับ แต่ละปีจะมีข้อมูลไม่เหมือนกัน
มีโปสเตอร์โฆษณาเบียร์ของแต่ละยุคมาโชว์ไว้ด้วย
จากชั้นบน เราเดินลงสู่ชั้นล่าง ได้เวลาชิมเบียร์กันแล้ว! ที่ญี่ปุ่นนี่กฎหมายของการซื้อขายแอลกอฮอล์เหมือนของไทยค่ะ คือห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริโภคและซื้อขาย
เขาจะให้เราจ่ายเงินที่ตู้หยอดเหรียญเลือกเมนูเบียร์เอง พอได้บัตรก็เอาไปยื่นที่เคานเตอร์ จะมีพนักงานคอยกดเบียร์ให้ แล้วเราก็ถือไปหาโต๊ะนั่งละเลียดฟองกันเอง เบียร์มีให้เลือกสามรส Black Label, Classic และ Kaitakushi แก้วละ 200-300 เยน แต่ถ้าใครอยากชิมมันทั้งสามรส ก็สามารถซื้อแบบถาดรวมสามแก้ว (ขนาดเล็ก) ในราคา 600 เยนได้
ได้มาแล้วครับชุดใหญ่เลยฮ่าๆ
จัดมันแต่วันเลย
บริเวณที่ให้นั่งชิมเบียร์ครับ
ชิมไปถ่ายรูปไปก็หมดทั้ง 3 แก้ว รสชาติดีครับทานง่ายลื่นคอ ฮ่าๆ
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร Sapporo Beer Museum
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 11:30-20:00 (เข้าชมรอบสุดท้าย 19:30)
วันปิดทำการ: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะปิดในวันอังคาร)
การเดินทาง : เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Higashikuyakusho mae
หลังจากนั้นผมก็เดินกลับมาที่สถานีเดิมครับ เดียวจะกลับไปตั้งหลักหาอะไรทานกันที่สถานี Sapporo ก่อนครับ
เดินย้อนกลับมาทางเดิมเลยครับ
จากสถานี Higashi-kuyakusho-mae Station มาสถานี Sapporo ห่างกัน 2 สถานีเองครับ
ผมมาแวะหาอะไรทานที่ชั้นใต้ดินของสถานี Sapporo ก่อนครับ
มีร้านให้เลือกทานเยอะเลยครับ
เดินๆดูแล้วก็มาแวะทานที่ร้านนี้ครับ ง่ายๆ
เป็นอาหารชุด
2 ชุดราคา 1,468 เยนครับ รสชาติอร่อยดีครับ
เมื่อทานอิ่มแล้วก็ได้เวลาออกเที่ยวต่อไปครับ โดยผมจะไปที่ ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด(Farmer Hokkaido Governing Office Building) โดยผมเดินไปจากสถานี Sapporo ครับ
เดินมาไม่ใกล้ครับอยู่ระหว่างสถานี Sapporo กับสวน Odori
ข้ามถนนตรงไหนี้ไปก็ถึงแล้วครับ
เที่ยว Sapporo 1 วัน : ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด
ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด(Farmer Hokkaido Governing Office Building) หรือตึกแดง อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะความสวยงามของที่นี่ที่เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร๊อคอเมริกาที่สร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง โดยลอกแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ตึกแดงหลังนี้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2429 และใช้ต่อเนื่องยาวมานานถึง 80 ปี ก่อนที่จะย้ายไปที่ทำการหลังใหม่
ผมมาถึงช่วงเย็นๆแล้ว ที่ Sapporo หน้าหนาวจะมืดไวมากเลยครับ เพราะฉนั้นใครอยากเที่ยวให้ได้ครบๆควรจะต้องออกแต่เช้าครับ
สามารถเข้าไปชมที่ด้านในได้ด้วยนะครับ แต่ผมไม่ได้เข้าไปเดินถ่ายรูปแค่ด้านนอก
ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 8.45-18.00 น. (ปิดทำการใชช่วงเทศกาลปีใหม่)
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Nanboku หรือสาย Tozai ลงสถานีซัปโปโร ออกทางออกที่ 10
หลังจากที่ออกจากทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด ผมก็เดินต่อมาที่สวน Odori หรือ แถวๆ Sapporo TV Tower ครับ อยู่ใกล้ๆกันสามารถเดินต่อมาได้เลย
เที่ยว Sapporo 1 วัน : สวนโอโดริ Odori Park
สวนสาธารณะโอโดริ(Odori Park) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ซึ่งแยกเมืองออกเป็นสองฝั่ง คือทางทิศเหนือและทิศใต้ มีที่จอดรถกว้างประมาณกิโลมตรครึ่ง กินพื้นที่ถึง 12 บล็อคของเมือง ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นพื้นที่สีเขียวที่งดงาม และช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นสถานที่หลักในการจัดเทศกาลหิมะซัปโปโร
ด้านทิศตะวันออกของสวนโอโดริ เป็นที่ตั้งของ ทีวีทาวเวอร์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower) สูง 150 เมตร ซึ่งด้านบนมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของสวนสาธารณะแห่งนี้และเมืองโดยรอบ จุดชมวิวอยู่ที่ความสูง 90 เมตร ในช่วงกลางคืนทาวเวอร์จะเปิดไฟประดับประดาเพื่อความสวยงาม เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของซัปโปโร
ช่วงที่ผมไปเป็นหน้าหนาว กำลังเตรียมงาน sapporo snow festival 2018 กันอยู่ครับ
เลยได้โอกาสเดินชมก่อนงานเปิดซะเลย ถึงจะยังไม่เสร็จดี แต่ก็เห็นถึงความอลังกาลครับ
งาน sapporo snow festival จะมีหลายส่วนครับ ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ เด็กๆนักเรียนช่วยกันแกะสลักน้ำแข็งกันอยู่
มีการทดลองระบบเสียง สี เสียง ด้วย
เดินชมเรื่อยๆก็มาสุดที่บริเวณ Sapporo TV Tower ครับ ยังไม่ 5 โมงเลยแต่ฟ้าจะมืดแล้ว
ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) ตั้งอยู่ที่สวนโอโดริ ใจกลางเมืองซัปโปโร หน้าตาก็คล้ายๆ โตเกียวทาวเวอร์เลยค่ะแต่เล็กกว่า ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) สูง 150 เมตร โดยชั้นที่สูงที่สุดซึ่งสามารถชมวิวเมืองซัปโปโรได้จะตั้งอยู่ที่ความสูง 90 เมตรซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศของเมืองซัปโปโรจากมุมสูงได้อีกด้วย
ช่วงหน้าหนาวจะมีลานไอซ์สเก็ตให้เล่นด้วยครับ บรรยากาศดูสนุกสนานดีทีเดียวครับ
รีวิวเที่ยวเที่ยว Sapporo 1 วัน ยังไม่จบนะครับ เดียวผมจะพาไปอีก 2 ที่ แต่จะต่อในตอนนหน้าครับเพื่อไม่ให้บทความมันยาวจนเกินไป ซึ่งตอนต่อไปผมจะพาไปทานราเม็งที่ ตรอกราเม็ง (Ramen Alley) และเดินช็อปปิ้งที่ย่าน Susukino ติดตามชมกันได้ครับ
ส่วนใครไม่อยากพลาดรีวิวหรือจะย้อนกลับไปอ่านให้ต่อเนื่องครบทุกตอนก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/review-japan-2018.html ผมจะเข้าไปอัพเดทรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวไว้ที่นั่นครับ
ชมรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทั้ง 18 ตอนอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #01 รีวิววิธีเดินทางจากสุวรรณภูมิด้วย Hong Kong Airlines ต่อเครื่องไปลงนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #02 รีวิวโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #03 พาชิมราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen สาขา Ueno พร้อมวิธีสั่งและวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #04 พาเที่ยวสวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura)ตัดแล้วกินสดๆจากต้น พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #05 เดินเล่นย่าน Ueno พาชิมมันปูย่างร้าน isomaru suisan สาขาตลาด ameyoko
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #06 พาเดินเที่ยว karuizawa outlet มีทุกแบรนด์ช็อปปิ้งพร้อมวิธีเดินทางจากโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #07 รีวิวโรงแรม Manza Kogen Hotel แช่ออนเซ็นกลางหิมะ พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #08 รีวิววิธีเดินทางไป HAKODATE ด้วย JR East-South Hokkaido Rail Pass ไม่ยากเลย
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #09 รีวิวโรงแรม Hotel Sharoum-inn 2 ที่พักราคาถูกใกล้สถานี JR HAKODATE
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #10 รีวิวพาเที่ยว HAKODATE 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #11 เดินทางไป Sapporo พาเที่ยว Tenguyama Ropeway ชมวิวคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #12 รีวิวโรงแรม Hotel Sunroute Sapporo ที่พักราคาไม่แพง ใกล้สถานี Jr Sapporo
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #13 พาเที่ยว Sapporo 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #14 ไปชิมราเมง ที่ตรอกราเมน Ramen Alley Sapporo พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #15 รีวิววิธีเดินทางจาก Sapporo ยิงยาวไปสนามบิน Narita ด้วย JR East-South Hokkaido
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #16 รีวิวโรงแรม Narita Airport Rest House ที่พักใกล้สนามบิน มีรถรับ-ส่ง สะดวกมากๆ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #17 กลับไทยด้วย Hong Kong Airlines พร้อมวิธีและขั้นตอนต่างๆ ที่สนามบินนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #18 พาเที่ยว HongKong 1 วัน ระหว่างรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพ พร้อมวิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น