EP.20 วิธีเดินทางจากนาริตะกลับดอนเมืองด้วย Air Asia X ไฟลท์ XJ601
มาถึงรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนสุดท้ายแล้วครับ...ซึ่งในตอนนี้จะพาไปดูกันว่า วิธีและขั้นตอนการเดินทางกลับด้วยสายการบิน Air Asia X ไฟลท์ XJ601 นั้นจะเป็นยังไงบ้างครับ สำหรับใครที่กลับไฟลท์นี่คงจะต้องหาที่พักใกล้ๆสนามบินหรือไม่ก็ต้องมานอนที่สนามบินกันเลยทีเดียว เพราะว่าจะต้องมาเช็คอินก่อนเวลา 8.15 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เค้าเตอร์เช็คอินจะปิด
ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไรบ้างเดียวไปชมกันเลยครับผม
เนื่องจากเมื่อคืนผมนอนที่สนามบินนาริตะ เลยสามารถขึ้นมารอเช็คอินก่อนใครตั้งแต่เช้ามือเลยครับ แต่ถึงมาก่อนก็ต้องรอเวลาอยู่ดีครับ เพราะเค้าเตอร์เช็คอินจะเปิดเวลา 6.15 น. ครับ
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ผมเลยเอากระเป๋าไปชั่งน้ำหนักดูก่อนครับว่าน้ำหนักเกินหรือเปล่า ซึ่งที่สนามบินนาริตะ ชั้น 4 จะมีตาชั่งให้ใช้ครับ
ขากลับผมซื้อน้ำหนักไว้ 25 กิโลกรัมครับ แต่ลองชั่งดูแล้วเพิ่งจะหนักเพียง 20 กิโลกรัมเท่านั้น ก็สบายๆครับซื้อมาเผื่อไว้
บรรยากาศของชั้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศที่สนามบินนาริตะ ทอลมินอล 2 ยังไม่มีคนมาเท่าไหร่ครับ ต่างจากสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเราที่จะคึกคักตลอดเวลา เนื่องจากว่าที่สนามบินนาริตะจะปิดไม่มีการบินในช่วงกลางคืน
เมื่อถึงเวลาเช็คอินก็ให้มาที่เค้าเตอร์ N ครับ ซึ่งให้บริการสำหรับสายการบิน Air Asia X ไฟลท์ XJ601
เอกสารที่ใช้ตอนเช็คอินก็มีเพียงพาสปอตร์อย่างเดียวครับ
ส่งกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ ติดเทคก่อนจะส่งไปโหลดลงใต้เครื่อง
น้ำหนักกระเป๋าขนาด 26" ซึ่งอัดแน่นมาเต็มๆ ยังหนักแค่ 20.6 กิโลเองครับ
หลังจากนั้นก็จะได้ Boarding Pass มาครับ จะมีรายละเอียดต่างสำหรับไฟลท์บินของเรา โดยไฟลท์ XJ601 วันนี้จะต้องไปขึ้นเครื่องที่ Gate 96 ครับ
แต่เนื่องจากยังเช้าอยู่ ตรงด่าน ตม. ยังไม่เปิดครับ เลยขึ้นมาด้านบนจะมีส่วนสำหรับให้ออกมาชมเครื่องบินได้ เป็นการฆ่าเวลาที่ดีครับ
เดินขึ้นมาด้านบนจะมีป้ายบอกครับ ว่าเป็นที่ชมเครื่องบิน สนามบินนาริตะ
บรรยากาศยามเช้าที่สนามบินนาริตะครับ เครื่องบินยังขึ้น-ลง ไม่เยอะเท่าไหร่
ใครอยากชมเครื่องบินแบบซูมเข้าไปใกล้ๆก็สามารถหยอดเหรียญที่เครื่องนี้ได้ครับ
หลังจากที่ชมเครื่องบินจนถึงเวลาที่ด่าน ตม. เปิดแล้วก็ลงไปกันเลยครับ
แถวยาวเลยครับ วิธีการก็คือจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจ Boarding Pass กับ พาสปอตร์ ว่าชื่อตรงกันหรือไม่ จากนั้นก็แสกนกระเป๋า ผ่านด่าน ตม. เพื่อสแตมป์ตราขาออกครับ
เมื่อผ่านขั้นตอนต่างๆออกมาแล้ว ก็เดินต่อไปยัง Gate 96 ครับ
มีร้านสินค้าปลอดภาษีให้เลือกซื้อบ้างครับ แต่บางร้านก็ยังไม่เปิด
เดินตามป้ายไปยัง Gate 96 ครับ
เหล่าแอร์โฮสเตสของ Air Asia X ไฟลท์ XJ601 กำลังจะเดินไปที่เครื่องเหมือนกันครับ
มาถึงแล้วครับ Gate 96 ก็รอเวลาเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง
Boarding Time ของ Air Asia X ไฟลท์ XJ601 คือเวลา 8.35 น. ครับ
เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะเรียกขึ้นเครื่องเป็นโซนๆครับ เพื่อความเป็นระเยียบเรียบร้อย
นั่งประจำที่ครับ ขากลับผมได้นั่งหมายเลข 21A ครับ ริมหน้าต่างฝั่งซ้ายมือ อดเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย ถ้าใครอยากเก็นฟูจิต้องนั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้ายครับ
มุมมองจากแถว 21 ครับ จะมีปีกมาบังวิวแบบนี้
ได้เวลาเหินฟ้าออกจากเกาะญี่ปุ่นแล้วครับ ไว้มีโอกาศจะกลับมาเที่ยวใหม่
หลังจากที่เครื่องขึ้นจนได้ระดับก็จะมีการบริกาณอาหารครับ ใครที่สั่งออนไลน์ไว้ก็จะได้รับก่อน
ผมแนะนำให้สั่งออนไลน์จากเว็บ Air Asia มาก่อนครับ ราคาจะถูกกว่า มีเมนูให้เลือกเยอะกว่า และที่สำคัญจะแถมน้ำน้ำดื่มมาด้วยครับ เลือกได้ว่าจะเอาน้ำเปล่า น้ำอัดลม หรือกาแฟ
เมนูนี้ราคา 150 บาทครับ ข้าวไก่เกาหลีพร้อมน้ำอัดลม
จากนั้นก็นอนหลับๆตื่นๆ ชมวิวบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงครับ สำหรับไฟลท์บินกลับเมืองไทย
มาถึงเมืองไทย กลับมาเจอกับอากาศที่ร้อนสุดๆ ฮ่าๆ
แล้วก็แลนด์ดิ้งลงมาอย่างปลอดภัยครับ
ที่นั่ง Air Asia X ไฟลท์ XJ601 แถวที่ 21A ครับ ก็นั่งได้พอดีๆครับสำหรับผมที่สูง 183 ซม.
ก็เป็นอันว่า ทริปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ของผมก็จบลงอย่างสมบูรณ์ ตามโปรแกรมที่ผมทำไว้จากเมืองไทย ได้เห็นหิมะเต็มๆสมใจซักที ถ้าใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองเอาโปรแกรมที่ผมไปนั้นมาดัดแปลงได้นะครับ ถ้าข้อมูลที่ผมรีวิวไว้มีคนนำไปใช้ผมจะดีใจมากๆเลยครับ
ชมรีวิววิธีเดินทางจากนาริตะกลับดอนเมืองด้วย Air Asia X ไฟลท์ XJ601 รูปแบบคลิปวิดีโอ
** ขออภัยหาพูดไม่ชัด เสียงเบาไปหน่อย เนื่องจากว่ายังมือใหม่เรื่องทำคลิป
ทริปต่อๆไปจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ครับผม 🙏
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น