มาถึงรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวตอนที่ 4 แล้วครับหลังจากตอนที่แล้วผมพาไปทาน ราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen สาขา Ueno แล้วก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน ดูรีวิวตอนที่แล้วได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/Ichiran-Ramen-Ueno.html ครับ
วันนี้ถือเป็นวันที่ 2 ที่ผมมาญี่ปุ่นครับโดยโปรแกรมเที่ยวครึ่งวันเช้าของผมจะไปเที่ยวที่ สวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura) อยู่ที่เมือง Yuzawa โดยวันนี้ผมจะเปิดใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass เป็นวันที่ 2 ด้วยครับ
มาเริ่มวันใหม่ด้วยการลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ครับ
เป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆ มีให้เลือก 2 เซ็ต ก็ถือซะว่าเป็นการรองท้องก่อนที่จะออกไปเที่ยวได้ครับ
สำหรับวิธีเดินทางไป สวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura) นั้นผมจะต้องไปนั่ง SHINKANSEN ที่สถานีโตเกียวครับ ซึ่งผมได้จองตั๋วและจองที่นั่งล่วงหน้ามาแล้ว
จากโรงแรมที่ผมพักต้องนั่งรถไฟใต้ดิน 2 ต่อเพื่อไปยังสถานีโตเกียวครับ โดยผมใช้บัตรรถไฟใต้ดินแบบ 24 ชั่วโมงที่ซื้อมาและเปิดใช้เมื่อวานช่วงเย็นๆสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน
ต่อแรกนั่งสาย Tozai Line จาก T11 Kayabacho ไปลงที่ T09 Otemahi
จากนั้นไปต่อสาย Marunouchi Line จาก M18 Otemahi ไปลงที่ M17 Tokyo
ต่อแรกผมก็นั่งจากสถานี Kayabacho ซึ่งโรงแรมที่ผมพักอยู่ที่สถานีนี้ครับ
เมื่อมาถึงสถานี Otemahi แล้วก็ให้เดินตามป้าย Marunouchi Line ครับ
เดินตามป้าย Marunouchi Line ไปได้เลย ค่อนข้างไกลนิดนึงครับ ใช้เวลาเดินร่วมๆ 10-15 นาทีได้เลย
เมื่อเดินไปถึงสถานี M18 Otemahi ก็นั่งมาอีกแค่สถานีเดียวครับ ก็จะถึง M17 Tokyo
ถึงสถานีรถไฟใต้ดินโตเกียวแล้ว ให้เดินมาทางป้าย JR Line ครับ เดียวเราจะต้องไปต่อรถไฟ SHINKANSEN เพื่อไปยังสถานี ECHIGO-YUZAWA
แต่เช้านี้มีปัญหานิดหน่อยครับ เนื่องจากผมมาขึ้นรถไฟรอบที่จองไว้ไม่ทันครับ มาสายไป 2 นาที ทำให้ต้องไปออกตั๋วรถไฟรอบใหม่ที่เคาร์เตอร์ของ JR ครับ
วิธีออกตั๋วใหม่ก็ไม่ยากครับ ยื่น JR East-South Hokkaido Rail Pass และแจ้งสถานีที่เราต้องการไปเท่านั้นเอง เค้าจะออกตั๋วรถไฟเที่ยวใหม่ให้เราครับ
ได้มาแล้วครับตั๋วรถไฟ SHINKANSEN ที่จะพาไปยัง สวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura)
ชื่อขบวน : SHINKANSEN MAX TOKI 309
ออกจาก : TOKYO 08:52 [ Departure track No.21 ]
ไปที่ : ECHIGO-YUZAWA 10:23
ตู้หมายเลข : 7
ที่นั่ง : 6-E 6-D
วิธีการขึ้นรถไฟ SHINKANSEN สำหรับคนที่ใช้พาส ไม่ว่าจะใช้พาสไหนก็มีวิธีเหมือนกันครับ ก็คือจะต้องเดินเข้าไปเฉพาะช่องที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ จะไม่สามารถเสียบบัตรเข้าไปได้เหมือนคนทั่วไป
ขบวนที่ผมจะต้องไป ต้องไปขึ้นที่ track No.21 ครับ เดินเข้าไปด้านในได้เลยครับ
วิธีเข้าไปก็แค่โชว์พาสให้เจ้าหน้าที่ดูครับ
จากนั้นก็ขึ้นมารถรถที่ track No.21 จะมีจอบอกรายละเอียดของรถไฟแสดงให้ดูครับ เราก็เช็คดูอีกรอบว่าใช้ขบวนที่เราจะไปหรือเปล่า
ของผมต้องมารอขึ้นที่ตู้หมายเลข 7 ครับ
จากนั้นก็ไปนั่งประจำที่เราครับ
จากสถานี Tokyo ไปสถานี ECHIGO-YUZAWA ใช้เวลาประมาณ 90 นาทีครับ ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร
นั่งหลับๆตื่นๆก็มาถึงยังปลายทางที่สถานี ECHIGO-YUZAWA แล้วครับ
จากนั้นก็เดินลงมาด้านล่างครับ
วิธีไปสวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura) ECHIGO-YUZAWA
มาถึงขั้นตอนสำคัญ...สำหรับการจะไปสวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura) นั่นมีวิธีเดียวครับ ก็คือการนั่งแทกซี่ไป (หรือใครจะเดินไปก็ได้นะครับแต่จะไกลหน่อย) โดยสามารถมาขึ้นรถได้ที่หน้าสถานี ECHIGO-YUZAWA ครับ แล้วบอกคนขับว่าไป Ichigo mura หรือเพื่อนๆสามารถเซฟรูปจากรีวิวนี้ไปให้คนขับดูก็ได้ครับ เค้าจะรู้ว่าเราจะไปสวนสตรอว์เบอร์รี
ขึ้นรถมาได้เลยครับใกล้ๆ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
ที่เมืองนี้หิมะท่วมเลยครับ ใครที่ไปเล่นสกีที่ GALA Yuzawa ขากลับก็สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้นะครับ อยู่ใกล้ๆกันเลย
หิมมะเยอะจริงๆครับ หนาวมากๆด้วย
นั่งแท็กซี่มาประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วครับ ค่าแท็กซี่ประมาณ 950 เยน ผมจำตัวเลขเป๊ะไม่ได้แต่ไม่เกินนี้ครับ
คุณลงคนขับแท็กซี่มาส่งให้ถึงปากทางประตูเข้าสวนเลย
แถมใจดีเข้าไปถามให้ด้วยว่า วันนี้เปิดหรือยังเพราะผมไปช่วงเช้าๆอยู่
อันนี้คือทางเข้า สวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura) ครับ
เข้ามาด้านในก็จะเจอกับป้ายบอกรายละเอียดต่างๆครับ สำหรับช่วงที่ผมไปยังไม่มีแบบบุฟเฟต์นะครับ เพราะว่าสตอเบอรรี่ยังสุกไม่เยอะเท่าไหร่ เลยคิดค่าเข้าสวนคนละ 150 เยน จากนั้นก็จ่ายค่ากระป๋อง 100 เยน ส่วนสตรอว์เบอร์รีที่เราตัดมายังกินไม่ได้นะครับ จะต้องเอามาชั่งน้ำหนักแล้วจ่ายเงินถึงจะทานได้
แต่ถ้าใครมาช่วงเวลาประมาณเดือนช่วงกุมภาพันธ์ไปจนถึงมีนาก็จะมีบริการแบบบุฟเฟต์ด้วยครับ คือกินเท่าไหร่ก็ได้ในเวลาที่กำหนด ถ้าจะให้ชัวร์ก็สามารถเช็คกับทางเว็บสวนได้ครับ >> http://www.yuzawajyuki.co.jp/ichigo/
อุปกรณ์สำหรับตัดสตรอว์เบอร์รี
มีภาษาไทยให้อ่านด้วยนะครับ
พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ ผมมาถึงประมาณ 11 โมงครับ คนยังไม่มีเลยเดินตัด เดินถ่ายรูปกันสบายเลย
ช่วงที่ผมไปสตรอว์เบอร์รียังสุกไม่เยอะเท่าไหร่ครับ แต่ก็มีให้ตัดได้ตลอดทางเลย อย่าลืมว่าตัดมากจ่ายมากนะครับ ไม่ใช่แบบบุฟเฟ่
ลูกโตและใหญ่มากครับ เพิ่งจะเคยเห็นสตรอว์เบอร์รีสดๆจากต้นก็ครั้งนี้
ไม่แน่ใจว่าพันธ์อะไร
วิธีการตัดก็ให้ตัดตรงกิ่งแบบนี้ครับ
เลือกตัดลูกแดงๆที่สุกแล้ว
เดินไปเดินมาก็ตัดมาแค่นี้พอครับ เดียวจะทานไม่หมด
จากนั้นก็นำไปชั่งน้ำหนักและชำระเงินครับ
กล่องนี้ที่ผมไปตัดมาราคา 1,260 เยนครับ ประมาณ 10-13 ลูก ไม่แน่ใจ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาชิมครับ จะบอกว่ามันหวานหอมมากเลย กัดไปนี่ฉ่ำมากๆ
แต่เนื่องจากมันลูกใหญ่มากทานไม่หมด เลยต้องให้เค้าแพคให้เดียวจะเอาไปทานบนรถไฟตอนขากลับ
ส่วนขากลับจากสวนสตรอว์เบอร์รีไปยังสถานี Echigo-Yuzawa จะไม่มีแท็กซี่มาจอดรอนะครับ ต้องให้ทางสวนโทรไปเรียกแท็กซี่ให้เรา ระหว่างรอก็มาถ่ายรูปเล่นหน้าสวน หิมะสูงมากๆเลย ฮ่าๆ
รอซัก 10 นาที แท็กซี่ก็มารับแล้วครับ
ขากลับค่ารถจะแพงกว่าขามานะครับ ไม่แน่ใจว่ารวมค่าเรียกไปรับด้วยหรือเปล่า
ค่ารถแท็กซี่ขากลับ 1,140 เยน
หลังจากนี้ผมก็จะนั่งรถไฟ SHINKANSEN กลับโตเกียวครับ ซึ่งผมจองตั๋วมาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ชื่อขบวน : SHINKANSEN TOKI 318
ออกจาก : ECHIGO-YUZAWA 12:08
ไปที่ : TOKYO 13:28
ตู้หมายเลข : 10
ที่นั่ง : 9-E 9-D
ขึ้นไปรอด้านบน
รถไฟ SHINKANSEN TOKI 318 ก็มาตรงเวลาครับ จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งตามหมายเลขของเรา
ตู้หมายเลข 10
นั่งมาประมาณ 1.30 ชั่วโมงก็มาถึงสถานี Ueno ครับ ผมเลยถือโอกาสลงสถานีเลย ฮ่าๆ
ที่ลงสถานี Ueno ก็เพราะว่าผมจะแวะไปหาอาหารค่ำทาน และไปเดินซื้อของที่ ตลาด ameyoko ก่อนกลับโรงแรม
ก็เป็นอันจนโปรแกรมในครึ่งวันเช้าครับ สำหรับการไปเที่ยวที่สวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura) ใครมีพาสและไม่รู้จะไปเที่ยวไหนก็เอาไว้เป็นตัวเลือกได้ครับ หรือใครที่ไปเที่ยวที่ GALA Yuzawa แล้วมีเวลาเหลือก็สามารถแวะมาเที่ยวได้เช่นกันครับ
ส่วนใครที่ติดตามรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวรอบนี้ของผมก็ไปชมรีวิวทุกตอนได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/review-japan-2018.html ครับผมจะเข้าไปอัพเดทในนี้ทุกครั้งที่รีวิวเสร็จ
ส่วนรีวิวตอนหน้าผมจะพาไปเดินเล่นย่าน Ueno พาชิมมันปูย่างร้าน isomaru suisan สาขาตลาด ameyoko ครับ
ชมรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทั้ง 18 ตอนอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #01 รีวิววิธีเดินทางจากสุวรรณภูมิด้วย Hong Kong Airlines ต่อเครื่องไปลงนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #02 รีวิวโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #03 พาชิมราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen สาขา Ueno พร้อมวิธีสั่งและวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #04 พาเที่ยวสวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura)ตัดแล้วกินสดๆจากต้น พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #05 เดินเล่นย่าน Ueno พาชิมมันปูย่างร้าน isomaru suisan สาขาตลาด ameyoko
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #06 พาเดินเที่ยว karuizawa outlet มีทุกแบรนด์ช็อปปิ้งพร้อมวิธีเดินทางจากโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #07 รีวิวโรงแรม Manza Kogen Hotel แช่ออนเซ็นกลางหิมะ พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #08 รีวิววิธีเดินทางไป HAKODATE ด้วย JR East-South Hokkaido Rail Pass ไม่ยากเลย
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #09 รีวิวโรงแรม Hotel Sharoum-inn 2 ที่พักราคาถูกใกล้สถานี JR HAKODATE
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #10 รีวิวพาเที่ยว HAKODATE 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #11 เดินทางไป Sapporo พาเที่ยว Tenguyama Ropeway ชมวิวคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #12 รีวิวโรงแรม Hotel Sunroute Sapporo ที่พักราคาไม่แพง ใกล้สถานี Jr Sapporo
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #13 พาเที่ยว Sapporo 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #14 ไปชิมราเมง ที่ตรอกราเมน Ramen Alley Sapporo พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #15 รีวิววิธีเดินทางจาก Sapporo ยิงยาวไปสนามบิน Narita ด้วย JR East-South Hokkaido
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #16 รีวิวโรงแรม Narita Airport Rest House ที่พักใกล้สนามบิน มีรถรับ-ส่ง สะดวกมากๆ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #17 กลับไทยด้วย Hong Kong Airlines พร้อมวิธีและขั้นตอนต่างๆ ที่สนามบินนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #18 พาเที่ยว HongKong 1 วัน ระหว่างรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพ พร้อมวิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น