EP.10 พาเที่ยวพระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) 5แยกชิบูย่า(Shibuya)
มาเที่ยวกันต่อครับ...สำหรับโปรแกรมเที่ยววันนี้ผมจะออกเป็น 2 ช่วงครับ โดยครึ่งวันแรกจะพาไปเที่ยวที่ พระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) ครับ จากนั้นก็จะเดินไปที่สถานีโตเกียวเพื่อแวะซื้อ JR TOKYO Wide Pass ไว้ใช้ใน 3 วันสุดท้าย จากนั้นก็ไปเที่ยวต่อที่ 5แยกชิบูย่า(Shibuya) ครับ
สำหรับโปรแกรมเที่ยวนั้นเพื่อนๆก็สามารถปรับตามความเหมาะสมได้นะครับ เพราะแพลนเที่ยวแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ทริปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ผมตัดสถานที่เที่ยวที่เคยไปมาแล้วออกไปพอสมควรเหมือนกันครับ
เดียวไปออกเที่ยวกันต่อเลยครับ
การเดินทางในวันนี้ก็เหมือนเดิมครับ ผมเริ่มจากสถานี Tawaramachi(G18) สาย Ginza Line ครับ ซึ่งเป็นสถานีที่โรงแรม Agora Place Asakusa ที่ผมเข้าพักครับ
ใช้บัตร Tokyo Subway Pass เหมือนเดิมครับ คุ้มมากๆขึ้นไปขึ้นมา หลงบ้างถูกบ้าง แฮ่ๆ
ส่วนการเดินทางไปยัง พระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) นั้นผมใช้แอฟค้นหา ได้เส้นทางมาตามนี้ครับ ต้องนั่งสาย Ginza Line ไปต่อสาย Tozai Line ที่สถานี Nihombashi ครับ
เริ่มจากสถานี Tawaramachi(G18) ไปลงที่ Nihombashi(G11) ครับ
เมื่อถึงที่สถานี Nihombashi(G11) แล้ว ก็ให้เดินตามป้าย Tozai Line ไปเลยครับเพื่อไปต่อรถไฟอีกขบวน
เดินตามป้าย Tozai Line สีฟ้า เลยครับ
โดยเราจะต้องขึ้นจากสถานี Nihombashi(T10) ไปลงที่สถานี Otemachi(T09) แค่ป้ายเดียวเองครับ
เมื่อมาถึงที่สถานี Otemachi(T09) แล้วก็ให้มองหาทางออก C13b ครับ
ที่จริงทางออกที่จะไปยัง พระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) นั้นสามารถออกได้หลายทางครับ แต่รอบนี้ผมเลือกออกที่ C13b ครับ ก็ให้เดินตามป้ายไปได้เลย ซึ่งระยะทางค่อนข้างจะไกลพอสมควรเลยครับ
เดินไปเดินมาก็มาโผล่ตรงโรงแรม Palace Hotel Tokyo ครับ แต่ไม่ต้องตกใจให้เดินออกมาด้านนอก ก็จะพบกับ พระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) ทางด้านประตู Ote-mon Gate ครับ
จากนั้นก็ให้เดินข้ามถนนครับ เดียวจะพาไปชมด้านในของ พระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) ซึ่งเข้าชมฟรีครับ ส่วนใครจะไม่เข้าไปชมด้านใน แต่จะไปถ่ายรูปตรงสะพานแว่นตาก็ให้เดินไปทางซ้ายมือได้เลยครับ
ผมเข้าทางประตู Ote-mon Gate ครับ
เดินเข้าไปด้านในได้เลย
โดยจะมีเจ้าหน้าที่แจกตั๋วให้ครับ เข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย เราก็ต้องเก็บตั๋วนี้ไว้คืนตอนที่เราจะออกครับ
ด้านในนี้ก็จะมีบ้านและสวนให้ชมครับ ใครมีเวลาเยอะๆก็สามารถเข้ามาชมได้ครับ
สถานที่แต่ละแห่งจะมีป้ายที่บอกรายละเอียดครับ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
สำหรับข้อมูลคร่าวๆของ พระราชวังหลวงโตเกียว (ญี่ปุ่น: 皇居 โคเกียว , "พระราชมนเทียร") เป็นพระราชวังของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในแขวงชิโยะดะ กรุงโตเกียว ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียว ภายในพระราชวังประกอบด้วยพระราชมนเทียรพระตำหนัก (宮殿 คีวเด็ง) ของพระราชวงศ์ พิพิธภัณฑ์ในพระองค์, สำนักพระราชวัง, และพระราชอุทยานขนาดใหญ่ พระราชวังนี้แต่เดิมเป็นที่ตั้งของปราสาทเอะโดะ
ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของโชกุนตระกูลโทะกุงะวะ แต่พระราชวังเดิมถูกระเบิดทำลายลงไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และต่อมาในปี ค.ศ. 1964 ก็ได้รับการบูรณะ ซึ่งตัวพระราชวังมีขนาดที่ดินทั้งหมด 3.41 ตารางกิโลเมตร ซึ่งในภาวะฟองสบู่อสังหสริมทรัพย์ของญี่ปุ่นในทศวรรษที่ 1980 มูลค่าของพระราชวังโตเกียวนั้นมีมูลค่าสูงมากกว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาเสียอีก
ดอกไม้เพิ่งเริ่มจะบาน ใครมาช่วงซากุระน่าจะสวยงามมากๆ
ส่วนทางออกนั้นเราสามารถออกทางประตูเดิม หรือประตูอื่นๆก็ได้นะครับ
เมื่อออกมาด้านนอกแล้ว เดียวผมจะเดินวนกลับไปทางเดิมครับ เพื่อจะไปชมสะพานแว่นตาซึ่งอยู่คนละฝั่งกับประตูที่ผมเดินออกมาครับ
ต้องเดินเลาะริมถนนไปครับ
เดินมาประมาณ 20 นาทีได้ครับ
ส่วน สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) นั้นต้องเดินต่อไปอีกครับถึงจะเจอ
เสียดายที่น้ำไม่ใสเลยดูไม่ค่อยเหมือนแว่นตาเท่าไหร่ครับ ฮ่าๆ
หลังจากที่เดินเล่นถ่ายรูปเสร็จแล้ว ผมก็เดินต่อไปยังสถานีโตเกียวครับ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้
จาก สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) ก็ให้เดินตรงออกมายังถนนเลยครับ
จากนั้นก็ให้ข้ามถนนแล้วก็เดินตรงไปยาวๆเลย
จะผ่านร้านค้า ร้านอาหาร และตึกสวยๆ เมื่อสุดทางก็ให้เลี้ยวซ้ายครับ ก็จะมองเห็นตัวสถานีโตเกียวครับ เป็นตึกสีส้มสวยงามเลยทีเดียว
สถานีรถไฟโตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京駅 โทเกียว-เอะกิ ) เป็นสถานีรถไฟหลักของกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านมะรุโนะอุชิ (丸の内 Marunouchi) แขวงชิโยะดะ หนึ่งในแขวงพิเศษของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อยู่ใกล้กับพระราชวังหลวง และย่านกินซะ
สถานีรถไฟโตเกียวให้บริการรถไฟระหว่างเมือง รถไฟท้องถิ่น และรถไฟชิงกันเซ็ง (รถไฟความเร็วสูง) ของกลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น (Japan Railway Group) และรถไฟฟ้าใต้ดินของโตเกียวเมโทร (東京メトロ Tōkyō Metoro) 1 ใน 2 ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงโตเกียว
สถานีรถไฟโตเกียวเป็นสถานีรถไฟที่มีจำนวนรถไฟระหว่างเมืองเข้าออกคับคั่งที่สุดอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น (มากกว่า 3,000 เที่ยวต่อวัน) และมีผู้คนสัญจรผ่านมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของภาคตะวันออกของญี่ปุ่นสถานีรถไฟโตเกียวยังเป็นต้นทางและชุมทางของรถไฟชิงกันเซ็งมากขบวนที่สุด
เป้าหมายของผมที่สถานีโตเกียวก็คือจะมาซื้อ JR TOKYO Wide Pass และจองที่นั่งไว้เลยครับ โดยต้องไปซื้อที่ JR Ticket Office ครับ
นี่เลยครับ JR Ticket Office ที่สถานีโตเกียว เข้าไปซื้อได้เลย ซึ่ง JR TOKYO Wide Pass นั้นไม่สามารถซื้อจากเมืองไทยได้นะครับ ต้องมาซื้อที่ญี่ปุ่นเท่านั้น
JR TOKYO Wide Pass นั้นราคา 10,000 เยนครับ ใช้ได้ 3 วัน สำหรับเส้นทางรถไฟที่ใช้ได้นั้นสามารถดูได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass/index.html ครับ ซึ่งผมทำการบ้านมาแล้ว ว่าจะขึ้นรถไฟขบวนไหนเวลาอะไรบ้าง จะได้ง่ายตอนที่เจ้าหน้าที่จะทำการจองที่นั่งให้เราครับ
อันนี้ก็เป็นขบวนรถไฟที่ผมจะทำการจองที่นั่งครับ เป็นขบวนหลักๆที่จำเป็นต้องจองไว้ก่อนครับ ส่วนขบวนอื่นที่นั่งสั้นๆนั้นผมไม่ได้จอง สามารถขึ้นได้เลยครับ
เจ้าหน้าที่จะทำการจองที่นั่งตามที่เราเตรียมมาให้เลยครับ สะดวกดีเหมือนกัน
ได้มาแล้วครับ JR TOKYO Wide Pass และตั๋วที่ทำการจองที่นั่งไว้ โดยผมเปิดใช้พรุ่ง(19 February 2017)นี้เป็นวันแรกครับ จะครอบคลุมวันกลับพอดีทำให้ผมสามารถนั่ง N'ex กลับสนามบินได้อีกด้วย ถือว่าผมใช้พาสได้คุ้มราคามากๆ
เมื่อได้พาสแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อครับ โดยผมจะไปที่ 5แยกชิบูย่า(Shibuya) ครับ จากสถานีโตเกียวต้องนั่งรถไฟไปสองต่อครับ
จาก Tokyo (M17) ไปลงที่ Akasaka-mitsuke (M13) แล้วไปต่อสาย Ginza Line ไปลงที่สถานี Shibuya (G01) ครับ
เดินตามป้าย Marunouchi Line เพื่อไปขึ้นรถไฟครับ เนื่องจากว่าสถานีโตเกียวนั้นใหญ่มากครับ เลยต้องเดินไกลหน่อยกว่าจะถึงตัวสถานี
จาก Tokyo (M17) ต้องไปลงที่ Akasaka-mitsuke (M13)
ต้องขึ้นที่ฝั่งหมายเลข 1 ครับ
เมื่อถึงที่สถานี Akasaka-mitsuke แล้วก็ให้มองหาป้าย Ginza Line ครับซึ่งอยู่ติดกันเลย
โดยต้องนั่งสาย Ginza Line ไปลงที่ สถานี Shibuya (G01) ครับ
เมื่อมาถึงที่สถานี Shibuya (G01) ก็ให้เดินลงไปข้างล่างก็จะพบกับ 5แยกชิบูย่า(Shibuya) แล้วครับ
สำหรับใครที่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องหาโอกาศมาเดินข้ามถนนกันที่ 5 แยก ชิบูย่า (Shibuya) ซึ่งถือว่าเป็น Landmark อีกอย่างของกรุงโตเกียวเลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาเลิกงานหรือช่วงวันหยุด แยกนี้จะมีคนข้ามถนน พร้อมๆกันเป็นพันๆคนเลยทีเดียว และที่ชิบูย่า (Shibuya) ก็ยังเป็นย่านชอปปิ้ง แหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่น วัยรุ่น ร้านอาหาร อีกด้วย
แหล่งช้อปปิ้ง ชิบูย่า (Shibuya) ที่เป็นที่นิยมก็จะมี
- Shibuya 109
- Shibuya Mark City
- Shibuya Hikarie
- Tokyu Hands
และอีกสิ่งหนึ่งเลยที่มา ชิบูย่า (Shibuya) แล้วจะต้องแวะไปถ่ายรูปด้วยนั้นก็คือ รูปปั้นสุนัขยอดกตัญญู ฮะชิโก(Hachiko) สุนัขสายพันธุ์อะกิตะ
ที่สร้างเอาไว้เพื่อระลึกถึงความจงรักภักดีอันน่าทึ่งจากการที่มันเฝ้ารอเจ้านายของมันเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าเจ้านายของมันจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม บางคนก็ใช้ตรงนี้เป็นจุดนัดพบเพื่อนฝูงกันด้วย
เดินออกมาก็จะพบกับ สุนัขยอดกตัญญูฮะชิโก (忠犬) (Hachiko) ก่อนเลยครับ มีคนมารอถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร
ตู้รถไฟเก่าที่เอามาทำเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ สามารถขึ้นไปนั่งหลบความหนาวได้ครับ
ด้านในตกแต่งได้น่ารักเด็กๆน่าจะชอบกันครับ
ส่วนไฮไลท์จริงๆก็ต้องยกให้แยกนี้เลยครับ มีคนมาถ่ายรูปบรรยากาศการเดินข้ามถนนกันเยอะมากๆ
ช่วงที่เป็นไฟเขียว ที่5แยกชิบูย่า(Shibuya)ก็เหมือนถนนทั่วไปครับ
แต่พอไฟแดงเท่านั้น คนเป็นร้อยๆพันๆคนก็จะมาข้ามถนนพร้อมๆกัน
ชมวิดีโอ5แยกชิบูย่า(Shibuya)
ส่วนใครอยากได้รูปมุมสูงของ 5แยกชิบูย่า(Shibuya) แนะนำให้ขึ้นไปถ่ายบนสะพานลอยครับ จะได้มุมที่สวยงามกว่าแต่ก็จะมีตะแกงรั่วมาบังครับ
หลังจากที่เดินเล่นและถ่ายรูปจนพอใจก็ได้เวลาออกเที่ยวต่อครับ
ชมรีวิวเที่ยวญี่ปุ่น EP.10 พาเที่ยวพระราชวังอิมพีเรียล 5แยกชิบูย่า(Shibuya) เวอร์ชั่นคลิปวิดีโอ
** ขออภัยหาพูดไม่ชัด เสียงเบาไปหน่อย เนื่องจากว่ายังมือใหม่เรื่องทำคลิป
ทริปต่อๆไปจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ครับผม 🙏
โดยในตอนต่อไปผมจะพาไปเที่ยวกันที่ Odaiba ครับไปดูกันดั้มก่อนที่จะถูกรื้อออก
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น