Search

รีวิวพาขี่จักรยานรอบทะเลสาบ Kawaguchiko ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

Advertisements




สวัสดีครับ..หลังจากรีวิวตอนก่อนหน้านี้ผมเดินทางมาเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิ ด้วย TOKYO Wide Pass นั่งรถไฟ Fuji Excursion ยาวจาก Shinjuku ถึง kawaguchiko เลย และมีเวลาเดินเล่นที่นี่ประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆครับ โดยตอนแรกคิดว่าจะขึ้นรถ Retro Bus เที่ยวรอบ Kawaguchiko แต่เห็นคนต่อแถวรอขึ้นรถ คิวยาวมากครับ แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ เลยเปลี่ยนใจไปเช่าจักรยานขี่เล่นแทน


ใครที่ยังไม่ได้ชมรีวิววิธีมาเที่ยว Kawaguchiko ด้วยรถไฟ Fuji Excursion สามารถชมได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2019/11/tokyo-wide-pass-fuji-excursion-shinjuku.html ครับ


หลังจากที่ผมเดินทางมาถึง Kawaguchiko ตอนที่มาถึงนั่นท้องฟ้า อากาศ เป็นใจมากๆ แต่ใครจะรู้ว่าอีก 2 ชั่วโมงต่อมาฝนจะตก ผมเปิดดูพยากรณ์อากาศในมือถือมันบอกว่าฝนจะตก แต่ผมไม่เชื่อ ฮ่าๆ ก็เห็นอยู่ฟ้าใสขนาดนี้ฝนจะตกได้อย่างไร....แต่เดียวมาชมกันครับ ว่าจะเป็นยังไง


เดินมาถึงที่บริเวณหน้าสถานี Kawaguchiko อย่างที่บอกไว้ว่า ตั้งใจจะมานั่งรถ Retro Bus เที่ยวรอบๆ กะว่ามาเที่ยววันธรรมดาแบบนี้คนไม่น่าจะเยอะ นึกว่าชิว แต่ที่ไหนได้คนเยอะมากๆครับ


แถวที่รอรถ Retro Bus ยาวสุดๆ คิดไปคิดมาแล้ว วิธีนี้คงจะไม่เหมาะซะแล้ว เนื่องจากว่าผมมีเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง จะให้มารอรถแบบนี้ คนเยอะๆแบบนี้ คงจะคุมเวลาได้ยากพอสมควร เลยต้องหาแผนสำรอง โดยการไปเช่าจักรยานขี่เที่ยวเอง


แถวยาวสุดๆไปเลย


คุณฟูจิช่วงนี้เริ่มมีหิมะเยอะแล้ว สวยงามทีเดียวเชียว กลับมาเรื่องการเช่าจักรยานขี่เที่ยวเองใน Kawaguchiko กันต่อครับ


เช่าจักรยานใน Kawaguchiko ได้ที่ไหน


คนที่กำลังจะมาเที่ยว แล้วต้องการเช่าจักรยานอาจจะมีคำถามนี้อยู่ในหัว ผมเองก็เช่นกันครับ แต่เมื่อผมเดินทางมาถึงแล้ว คำถามนี้ก็หมดไปเลย เพราะร้านเช่าจักรยานใน Kawaguchiko มีเยอะมากครับ เดินเลือกกันได้เลย

โดยผมเลือกร้านเช่าที่อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Kawaguchiko เลยครับ เดินข้ามถนนมาก็เจอเลย ร้านสีส้มๆครับ ที่เลือกร้านนี้เพราะว่าเดินใกล้สุด


ราคาเช่าจักรยานที่ Kawaguchiko ก็ประมาณนี้ครับ

แบบเช่า 1 ชั่วโมง 500 เยน
แบบเช่า 3 ชั่วโมง 1,000 เยน
แบบเช่าทั้งวัน 1,500 เยน (คืนรถได้ไม่เกิน 19.00 น.)

ราคาค่อนข้างจะสูงนะครับ ถ้าเทียบกับราคาเช่ารถจักรยานที่สวนรถไฟบ้านเรา (30 บาทขี่กันยาวๆเลย) ฮ่าๆ แต่มันก็เทียบกันไม่ได้อยู่ดีครับ ค่าครองชีพต่างกันพอสมควร


เมื่อตกลงที่จะเช่าจักรยานกับเจ้านี้แล้ว ก็ต้องมีการกรอกเอกสารนิดหน่อยครับ


ต้องใช้พาสปอร์ตในการจองด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่จะเอาไปถ่ายเอกสาร และก็กรอกรายละเอียดว่าจะเช่าแบบไหน คืนรถเวลากี่โมง เราพักที่โรงแรมไหนต้องเขียนลงไปด้วย จากนั้นก็จ่ายเงินก็เป็นอันเสร็จครับ


จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะมาอธิบายการใช้รถจักรยานนิดๆหน่อยๆครับ


เช่นวิธีการจอดต้องล็อคแบบไหน ต้องขับแบบไหน มีกุญแจให้ด้วยครับ ถ้าจะไปจอดในที่สาธารณะนานๆ รถจะได้ไม่หาย แต่ก็คงไม่มีใครมาเอาไปหลอก แฮ่ๆ


ออ...เค้ามีแผนที่ให้ด้วยนะครับ ว่าจะขับไปส่วนไหนต้องไปทางไหนยังไง แต่ผมไม่ได้ใช้เลยครับ ถนัดใช้กูเกิ้ลแมพมากกว่า อีกอย่างผมเคยมาขับแล้วรอบนึงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เลยทำให้พอรู้ทางอยู่บ้าง

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่น


1. การขับขี่ในเลนซ้ายสุดของถนน / บนทางเท้าที่มีเลนจักรยาน

2 ไม่ควรบีบแตร หรือ สั่นกระดิ่งไล่คนที่เดินอยู่ด้านหน้า

3 ห้ามนั่งซ้อนท้ายจักรยาน

4 ห้ามคุย ห้ามใส่หูฟัง ห้ามเล่นโทรศัพท์มือถือขณะปั่นจักรยาน

5 ห้ามกางร่มปั่นจักรยานขณะฝนตก

6 ต้องติดไฟที่จักรยานและต้องเปิดไฟจักรยานปั่นในช่วงกลางคืนด้วย

7 ต้องหยุดทุกครั้งเมื่อเห็นป้ายหยุด “โทมาเระ 止まれ STOP”

8 ห้ามดื่มแล้วขับ


พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ ผมเลือกเช่าแบบ 1 Day ครับ 1,500 เยน ส่งรถได้ไม่เกิน 19.00 น. แต่พอขับจริงๆก็ไม่ถึงครับ เนื่องจากเจอฝนตกเสียก่อน โดยเส้นทางการขี่ก็ตามแมพนี้เลยครับ


ออกจากร้านก็ขับไปตามทางจากนั้นข้ามทะเลสาบไปยังอีกฝั่ง ผมจะขับตามทางไปจนถึงบริเวณป้ายรถบัสหมายเลข 18 ครับ แวะถ่ายรูปแวะพักไปเรื่อยๆ


ขี่ง่ายมากครับ รถไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ต้องคอยระวังรถและคนดีๆครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง


ขี่ลัดเลาะไปถามถนนชมวิวไปเรื่อยๆ เป็นอะไรที่ชิลมากครับ อากาศช่วงนี้ก็ไม่หนาวจนเกินไป


ผมเดินทางวันที่ 11 พฤษจิกายน 2019 ใบไม้ก็เริ่มจะเปลี่ยนสีแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงช่วงพีคๆครับ


ขี่มาถึงแยกนี้ต้องคอยระวังครับ เป็นแยกใหญ่ เดียวผมจะต้องเลี้ยวขวาเพื่อขึ้นไปยังสะพานข้ามสะเลสาปครับ


ตอนนี้ฟ้ายังใส่อยู่ครับ



Advertisements



ช่วงขึ้นสะพานถ้าเราขี่ไม่ไหว แนะนำให้เข็นครับ ไปฝืนขี่อาจจะเกิดอันตรายได้


หันกลับไปมอง ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) ก็จะเห็นได้ชัดครับ โดยผมตั้งใจว่าจะขี่ข้ามไปฝั่งนู้นเพื่อที่จะได้ถ่ายรูป ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) กับใบไม้เปลี่ยนสี แดงๆเหลืองๆ แต่จะเป็นยังไงจะได้ถ่ายมั้ยติดตามกันต่อครับ อิอิ


ออ..ลืมบอกไปเราต้องขี่ฝั่งซ้ายของสะพานนะครับ



ลงมาจากสะพานแล้วให้เลี้ยวซ้ายไปทางนี้ได้เลยครับ จะเป็นทางเดินและขี่จักรยาน ยาวเลียบทะเลสาปไปเลย มีจุดให้ถ่ายรูปเยอะพอสมควรเลย


เพิ่งจะเคยเห็นใบไม้เปลี่ยนสีครั้งแรก ฮ่าๆ ตื่นเต้นใหญ่เลย มันแดงจริงๆ ในรูปน่าจะเป็นต้นต้นเมเปิ้ลครับ



เนื่องจากว่า ช่วงที่ผมไปยังไม่ใช่ช่วงพีคๆของ เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่ Kawaguchiko ถ้าอยากได้รูปสวยๆ ก็ต้องหามุมกันดีๆครับ ใช้มุมกล้องช่วย รูปที่ออกมาจะได้รู้สึกว่าใบไม้เปลี่ยนสีเยอะแล้ว



สำหรับเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่คาวากูจิโกะ (Fujikawaguchiko Autumn Leaves Festival)  ซึ่งในปีนี้จัดตั้งแต่วันที่ 1 – 23 พฤศจิกายน 2019 โดยพื้นที่จัดงานจะเป็นทางทิศเหนือของทะเลสาบคาวากูจิโกะ อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ เมืองฟูจิคาวากูจิโกะ (Fujikawaguchiko) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ครับ ส่วนในปีอื่นๆก็ต้องคอยติดตามข่าวครับ ว่าจะจัดในช่วงวันที่เท่าไหร่



เดินเลาะริมทะเลสาปมาเรื่อยๆครับ จะเจอกับต้นไม้ที่เริ่มเปลี่ยนสีบ้างแล้ว


ต้องหามุมถ่ายรูปดีๆครับ ก็จะได้รูปออกมาเหมือนในช่วงพีค ฮ่าๆ



ต้นนี้เหลืองอล่ามมากๆ เป็นเหมือนซุปเปอร์สตาร์ของตรงนี้ ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ต้องมาแวะถ่ายรูปด้วย



เราก็จัดบ้างครับ โดยใช้มุมกล้องช่วย ทำให้รูปออกมาสีสรรสดใสมากๆ


นานๆจะมีรูปกับเค้าบ้าง ฮ่าๆ


ต้นเมเปิ้ลแดงๆกับต้นแปะก๊วยเหลืองๆ ตัดกันแล้วสีสวยมากๆ


แวะพักเหนื่อยกันริมทะเลสาปซะหน่อย ขอดีของการขี่จักรยานเที่ยวเองแบบนี้ก็คือ เราสามารถแวะตรงไหนก็ได้ คนจะไม่เยอะเท่าบริเวณที่มีป้ายรถ Retro Bus จอด ทำให้หามุมสวยๆถ่ายรูปได้ง่าย




เมื่อมองย้อนกลับที่สะพานที่เราขี่ข้ามมา ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) ก็ได้หายไปซะแล้วครับ พยากรณ์อากาศแม่นจริงๆ ฟ้าเริ่มปิด เมฆเริ่มจะเยอะ เหมือนฝนกำลังจะมา


ขี่จนมาถึงแถวป้ายรถเมล์หมายเลข 18 ตรงนี้คนจะเริ่มเยอะแล้วครับ


จะมีทั้งนักท่องเที่ยวที่นั่งรถ Retro Bus มาลงป้ายนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์ด้วย


ตรงนี้จะเป็นที่จอดรถทัวร์ด้วยครับ ใครมาทัวร์เค้าจะปล่อยให้ลงมาเดินเล่นแถวนี้ครับ สถานที่ท่องเที่ยวแถวๆนี้ก็จะมี

Kawaguchiko Music Forest ที่นี่จะแบ่งโซนเป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ในสไตล์ยุโรป มีค่าเข้า 1,500 เยน

Kawaguchiko Konohana Art Museum พิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานการ์ตูนเกี่ยวกับแมวเหมียว Dayan และมีจำหน่ายสินค้าที่ชวนให้ทาสแมวต้องเสียทรัพย์ ค่าเข้าชม 500 เยน

แต่ผมไม่ได้เข้าไปชมด้านในนะครับ เน้นสายชิวเดินเล่นขี่รถเล่นอย่างเดียว



แถวนี้ต้นเมเปิ้ลแดงได้ใจจริงๆครับ น่าจะใกล้ช่วงพีคแล้ว เสียดายที่ผมมาเร็วไปหน่อย



คนจะค่อนข้างเยอะนะครับแถวนี้ ต้องหามุมถ่ายรูปกันดีๆ



มีร้านขายของอารมณ์เหมือนตลาดนัดเล็กๆอยู่ด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวเยอะ แต่เดินดูแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่


หลังจากนี้ผมกะว่าจะขี่จักรยานขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ฝนตกซะงั้นทำให้แผนที่วางไว้จบลงแค่แถวนี้ ฮ่าๆ ผลของการไม่เชื่อพยากรณ์อากาศ ว่าฝนจะในช่วงบ่ายๆ ปัญหาของการ เช่าจักรยานขี่ที่ Kawaguchiko ก็เรื่องฝนนี้หละครับ ผมต้องหาที่หลบแล้วยืนรอให้ฝนหยุดตกหรือตกเบาลง ซึ่งกินเวลาไปเป็นชั่วโมงเลย


หลังจากที่ฝนเริ่มตกเบาลงแล้ว ผมก็ขี่กลับมาทางเดิมครับ ที่นี่หนาวกว่าเดิมมาก ทั้งลมทั้งฝน


กระเช้าก็ปิดนะครับ ฝนตกลมแรง


แล้วก็พาตัวเองมาถึงที่สถานี Kawaguchiko ประมาณ 16.30 น. เอารถไปคืน มีเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่รถไฟกลับ Shinjuku จะออก ถึงฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ก็ยังมีเมฆลอยอยู่ ทำให้ไม่สามารถมองเห็น ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) ได้เท่าไหร่ เห็นแค่นี้เองครับ


รถไฟแบบต่างที่จอดอยู่ที่ Kawaguchiko Station


หลังจากนี้ผมก็นั่งรถไฟกลับเข้าโตเกียว ก็เป็นอันจบทริปสั้นๆ 1 วันใน Kawaguchiko กับการขี่จักรยานเที่ยว จากความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าเป็นวิธีที่โอเคเลยครับ สะดวกดี จะไปตรงไหน แวะตรงไหนก็ได้ วิวและเส้นทางจากต่างจากการที่เรานั่งรถ Retro Bus แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนะครับ 1,500 เยนต่อวัน หรือประมาณเกือบๆ 500 บาทไทย แต่ถ้าเราเช่าตั้งแต่เช้ายันก็คุ้มครับ

ยิ่งใครที่มาเที่ยวคนเดียว ลุยเดี่ยวยิ่งเหมาะครับ คล่องตัวมากๆ แต่ถ้าใครมาหลายๆคน 4-5 คน เช่ารถยนต์ขับอาจจะสะดวกสบายกว่าครับ ไม่ต้องกลัวฝนด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศ กันก่อนมานะครับ จะได้เจอฟูจิซังแบบชัดๆ ถ่ายรูปออกมาสวยๆ

สวัสดีครับ...
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น