สวัสดีครับหลังจากที่ผมได้รีวิวไฟลท์ airasia XJ 620 ไป Sapporo ไปแล้ว วันนี้ผมจะมารีวิวขากลับกันบ้างครับ ซึ่งไฟลท์ XJ 621 นั้นจะออกค่อนข้างจะเช้าครับ เดียวไปชมกันครับว่าที่สนามบิน New Chitose Sapporo จะมีขั้นตอนและวิธีอย่างไรบ้าง
สำหรับรีวิวขาไปสามารถดูได้ที่นี่ครับ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/06/airasia-XJ620-DMK-CTS.html
มาเริ่มกันที่ สนามบิน New Chitose Sapporo ครับ สำหรับไฟลท์ขากลับ XJ 621 นั้นเครื่องจะออกเวลา 09:55 น. ตามเวลาท้องถิ่นนะครับ ก็ควรจะมาถึงกันซักประมาณ 7 โมงกำลังดีครับ
วิธีเดินทางมาสนามบิน New Chitose Sapporo
สำหรับวิธีมายังสนามบินช่วงเช้าๆแบบนี้ก็ไม่ยากครับ เนื่องจากว่าสนามบินนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Sapporo เท่าไหร่นั่งรถไฟมาก็ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
แต่ผมเลือกวิธีมานอนใกล้ๆสนามบินในคืนก่อนเดินทางครับ โดยมานอนที่ Hotel AreaOne Chitose ราคาไม่แพงมาก และมีรถมาส่งสนามบินในตอนเช้าครับ ใครสนใจก็สามารถชมรีวิวโรงแรมนี้ได้ครับผมเขียนไว้แล้ว >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/06/Hotel-AreaOne-Chitose.html
ผมมาถึงสนามบิน New Chitose ประมาณ 6 โมงครึ่งครับ เนื่องจากว่ามันอยู่ใกล้มากๆ นั่งรถฟรีจากโรงแรมใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีเลยครับ เช้าๆแบบนี้บรรยากาศก็เลยดูเงียบๆครับ
สำหรับใครที่กลัวว่าน้ำหนักกระเป๋าจะเกินหรือเปล่า ก็มีเครื่องชั่งน้ำหนักให้บริการครับ อยู่แถวๆเค้าเตอร์เช็คอิน B
ผมก็เลยถือโอกาสมาลองชั่งดูก่อนครับขากลับกระเป๋าผมหนักเพียง 18.5 กิโลกรัม เหลือๆเลยครับ
เดียวเราไปเช็คอินกันครับ สำหรับไฟลท์ของ airasia จะเช็คอินที่เค้าเตอร์ A ครับ มีป้ายเขียนบอกไว้ชัดเจน
แต่เพื่อนๆต้องดูป้ายให้ดีๆนะครับ เพราะว่ามีไฟลท์ของ airasia ออกใกล้ๆกัน 2 ไฟลท์ ก็คือ D7 551 ที่จะบินไปกัวลาลัมเปอร์ และไฟลท์ XJ 621 ที่จะบินมาดอนเมือง แถมเค้าเตอร์เช็คอินก็ยังใกล้ๆกันอีกด้วย
ของเราต้องเข้ามาช่องนี้ครับมีป้ายเขียนบอกวไ้ว่า XJ 621 BANGKOK (DMK)
เอกสารที่ใช้เช็คอินก็ใช้เพียงพาสปอตร์ครับ เพราะว่าทางสายการบินเค้ามีข้อมูลของเราอยู่ในระบบอยู่แล้ว
ผมมาเช็คอินเป็นคนแรกๆเลยครับ เลยใช้เวลาไม่นาน
เจ้าหน้าที่ถามว่าเรามีอุปกรณ์อันตรายพวกนี้หรือเปล่า เขียนเป็นภาษาไทยเลย
ใช้เวลาไม่นานก็ได้ Boarding Pass มาแล้วครับผม
รายละเอียดใน Boarding Pass ก็จะบอกว่าเรานั้งตรงไหน เรียกขึ้นเครื่องกี่โมง ต้องไปรอขึ้นที่เกตหมายเลขอะไร ตัวอย่างของผมก็คือ
Flight No ไฟลท์ : XJ621
Boarding Time เวลาเรียกขึ้นเครื่อง : 9:15
Gate ประตูขึ้นเครื่อง : 65
Seat ที่นั่ง : 51 H
รายละเอียดก็มีประมาณนี้ครับ
ภาพนี้เป็นช่วงเวลาประมาณ 7.30 น. ครับจะเห็นว่าคนจะเยอะแล้วแถวเช็คอินยาวล้นออกมาด้านนอกเลย ใครไม่ยากต่อแถวยาวๆแบบนี้ ก็แนะนำให้มาเช้าๆครับ
ขั้นตอนต่อไปเราจะต้องเข้าไปด้านใน ในส่วนของผู้โดยสายขาออก (Departure) ครับ
เตรียมเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจครับ พาสสปอตร์และบอร์ดิ้งพาสครับ
ต่อแถวเข้าไปได้เลย
ตรงนี้จะนำน้ำดื่มเข้าไปไม่ได้แล้วนะครับ ใครพกมาก็ต้องดื่มให้หมดหรือไม่ก็ต้องทิ้ง
หลังจากที่ผ่านตรงนี้เข้าไปก็จะเจอกับส่วนของ ตม. ญี่ปุ่นครับ ซึ่งไม่อนุญาตอให้ถ่ายภาพ จากนั้นเดินออกมาก็จะเจอกับ Gate 66 เลยครับ เนืองจากว่าสนามบินนี้มีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก
ด้านในก็จะมีร้านค้าพอสมควรครับ ใครที่ยังไม่มีของฝากหรือว่าเงินยังเหลืออยู่ก็มาช็อปปิ้งต่อได้
ร้าน Duty Free ด้านในสนามบิน New Chitose มีขนม ของฝากมากมายให้เลือกซื้อครับ
ส่วนถ้าใครหิวก็มีร้านอาหารไว้บริการครับ โดยจะต้องเดินขึ้นไปชั้นบนครับ บันไดเลื่อนแถวๆ Gate 66
ตรงนี้หละครับ เดินขึ้นไปได้เลย
บนนี้จะมีส่วนของร้านอาหารอยู่ 3-4 ร้านครับ และก็ยังมีร้าน Duty Free อีกด้วย
อาหารที่ให้บริการก็ประมาณนี้ครับ สามารถทานรองท้องก่อนขึ้นเครื่องได้
วิธีการสั่งก็ไม่ยากครับ ต่อแถวสั่งอาหาร จ่ายเงิน รออาหารประมาณ 10-15 นาที
สั่งอาหารเสร็จเค้าจะให้เครื่องนี้มาครับ ถ้าอาหารที่เราสั่งไปทำเสร็จแล้วเครื่องมันจะสั่นและมีเสียง ก็ให้เดินไปรับอาหารได้เลย
อาหารเช้าที่ สนามบิน New Chitose Sapporo ก่อนขึ้นเครื่องครับ ชามนี้ราคา 1,100 เยนครับ รสชาติก็ปกติทั่วไปครับ เหมือนเราทานในเมืองเลย
กินอิ่มแล้วก็เดินมารอขึ้นเครื่องที่ Gate 65 ครับ
เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ของสายการบินจะตรวจพาสปอตร์กับบอร์ดดิ้งพาสของเราอีกรอบก่อนที่จะขึ้นเครื่องครับ
ได้เวลากลับบ้านเราแล้ว
ตรงประตูเข้าเครื่องแอร์จะตรวจ Boarding Pass เราอีกรอบครับ พร้อมจะบอกให้เราเดินไปทางไหน
สำหรับไฟลท์ XJ 621 ใช้เครื่องบินแบบ Airbus A330 จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 ครับ จะมีแถวด้านหลังตั้งแต่ 44 - 51 จะจัดแบบ 2-3-2 ครับ
ผมนั่งแถวหลังสุด 51 H เหมือนขามาครับ เป็นเบาะคู่ ใครชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำเลยครับ
รูปนี้ผมถ่ายมาให้ดูเพื่อให้เห็นว่าแถวสุดท้ายของ airasia x ก็สามารถเอนเบาะได้ครับ ใครที่ได้แถว 51 ก็ไม่ต้องกลัวครับ
ผมสูง 185 ก็ยังเหลือครับ เข่าไม่ติดกับแถวหน้า
ลำนี้เป็น airasia มาเลเซียครับ ที่จะบินไปกัวลาลัมเปอร์ ออกเวลาใกล้เคียงกันเลย
ได้เวลาบ๊ายบาย Sapporo แล้วครับ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเที่ยวใหม่อีกรอบ
หน้าร้อนวิวก็จะเขียวๆแบบนี้ครับ แต่ถ้าใครมาเที่ยวหน้าหนาววิวจะเป็นหิมะขาวไปทั้งเมืองเลย
หลังจากที่เครื่องได้ระดับก็นั่งชมวิวไป ซักพักก็จะทำการบริการอาหารและเครื่องดื่มครับ
โดยผมได้ทำการจองออนไลน์ล่วงหน้ามาแล้วก็จะได้รับอาหารก่อนครับ ใครจะทานอาหารบนเครื่องผมแนะนำให้สั่งออนไลน์ไว้ก่อนครับ เพราะว่าราคาจะถูกกว่าแถมน้ำด้วย
หน้าตาของอาหารก็ประมาณนี้ครับ ราคา 150 บาท
ทานอาหารเสร็จแอร์ก็จะให้ปิดหน้าต่างครับ เพื่อที่จะให้ผู้โดนสารพักผ่อน จากนั้นก็หลับยาวเลยครับ
ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมงก็มาถึงแถวๆรังสิตแล้วครับ
มาถึงดอนเมืองอย่างปลอดภัย
จากนั้นก็ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองครับ และก็รับกระเป๋า
ก็เป็นอันจบทริป และจบรีวิวครั้งนี้ครับ
ใครจะไปเที่ยว Sapporo และเลือกบินตรงไปกับสายการบิน airasia ผมว่าก็สะดวกดีนะครับ ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อเครื่อง แถวราคาก็ไม่ได้แพงด้วย
ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะเดินทางเส้นทางนี้และกำลังหาข้อมูลอยุ่นะครับผม
สวัสดีครับ....
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น