สวัสดีครับ...วันนี้จะพาไปเที่ยวบุรีรัมย์กันครับ หลายคนอาจจะเพิ่งคุ้นชื่อจังหวัดบุรีรัมย์มาในระยะหลังๆ ว่าเป็นเมืองแห่งกีฬาและมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆเกิดขึ้นมาเยอะพอสมควรเลยครับ
ล่าสุดผมได้มีโอกาศไปเที่ยวบุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน เลยจะมารีวิวให้ชมกันครับว่ามีเวลาเท่านี้จะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างและต้องเดินทางไปยังไง
พร้อมแล้วไปเที่ยวกันเลยครับ
สำหรับวิธีการเดินทางไปยังจังหวัดบุรีรัมย์นั้นสามารถไปได้หลายวิธีครับ เช่น
- ขับรถส่วนตัวไป
- รถทัวร์
- รถไฟ
- เครื่องบิน
ก็เลือกเอาตามความสะดวกและความเหมาะสมของแต่ละคนได้เลยครับ ส่วนตัวผมเองนั้นมีเวลาเที่ยวแค่ 2 วัน 1 คืน ก็ต้องใช้วิธีการเดินทางที่ประหยัดเวลาที่สุด นั้นก็คือนั่งเครื่องบินไปครับใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
โดยผมจองโปรโมชั่นของแอร์เอเชียครับ ไป- กลับ เพียง 600 กว่าบาทเท่านั้น คุ้มมากๆครับ สำหรับสายการบินแอร์เอชียนั้นมีไฟลท์บินไปจังหวัดบุรีรัมย์วันละ 2 เที่ยวบินครับ
ผมบินไฟลท์ FD 3522 ออกจากดอนเมือง 07:50AM ถึงสนามบินบุรีรัมย์ 08:50AM ครับ
มาถึงสนามบินบุรีรัมย์ตรงตามเวลาครับ
เมื่อมาถึงสนามบินแล้วก็ต้องหาวิธีเข้าเมืองครับ มีให้เลือกหลายแบบเหมือนกันครับเช่น
จากสนามบินบุรีรัมย์เข้าเมืองวิธีต่างๆ
- นั่งรถแท็กซี่เข้าเมือง (ราคาค่อนข้างแพง)
- นั่งรถตู้เข้ามเมือง (ราคา 200 บาท)
- เช่ารถขับเอง
- เดินออกไปขึ้นรถประจำทางที่หน้าสนามบิน (ราคาถูแต่รอรถนานไปหน่อย)
เมื่อเดินออกมาจากส่วนรับกระเป๋าก็จเจอกับเค้าเคอร์นี้ครับ เป็นเค้าเตอร์รถตู้เข้าเมือง และเค้าเตอร์รถเช่าครับ จะอยู่ใกล้ๆกัน
ส่วนผมเลือกวิธีเช่ารถขับเองครับ เพราะมันสะดวกมากๆ สามารถไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ที่เราอยากไป โดยผมเช่ากับ AVIS ซื้อวอยเชอร์มาประมาณ 600 บาท สามารถใช้รถได้ 1 วัน (24 ชั่วโมง) และคืนรถช้าได้อีก 4 ชั่วโมงครับ
ผมรับรถตอน 9 โมงเช้าสามารถคืนรถได้ถึงเวลา 13.00 น. ได้เลยครับ ใครมีโปรแกรม เที่ยวบุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน แบบผมใช้วิธีนี้ก็สะดวกดีครับ
ตรวจรับรถครับ เช็ครอยต่างๆ เค้าจะเติมน้ำมันให้เราเต็มถังนะครับ ตอนเอารถมาคินก็เติมเต็มถังมาคืนเหมือนเดิม
เนื่องจากว่าทริปนี้ผมไปเที่ยวคนเดียว เลยเลือกเช่ารถขนาดเล็กครับ ได้ suzuki swift มา รถก็ใหม่สะอาดดีครับ
ตอนนี้ผมก็พร้อมออกเที่ยวบุรีรัมย์แล้วครับ มีเวลาที่นี่ 2 วัน 1 คืน เดียวไปลุยกันเลยครับ โดยผมจะเริ่มจาก
1 เที่ยวพระสาทหินพนมรุ่ง บุรีรัมย์
เรียกได้ว่าเป็นเหมือนสัญลักณ์ของเมืองบุรีรัมย์เลยก็ได้ครับสำหรับปราสาทหินพนมรุ้งหรือปราสาทพนมรุ้ง ครับซึ่งระยะทางจากสนามบินไปก็ประมาณเกือบ 100 กิโลเมตรเลยครับ ใช้เวลาร่วมๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ใครจะเที่ยวตามรอยผมแนะนำให้เช่ารถครับ
ใครกลัวหลงแนะนำให้ใช้แอฟกูเกิลแมพนำทางไปครับ ทางก็ดีขับง่ายครับ
ผมใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 (บุรีรัมย์-ประโคนชัย) เป็นระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร ถึงตัวอำเภอประโคนชัย จะเห็นทางแยกที่จะไปอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ซึ่งใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 21 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2075 และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ถนนค่อนข้างดีเลยครับขับไม่ยาก จะมีช่วง 500 เมตรก่อนจะถึงซึ่งเป็นทางขึ้นเขาครับ แต่ก็ไม่ได้สูงชันอะไรมากเท่าไหร่
มาถึงแล้วจะมีที่จอดรถบริการไว้ด้านหน้าครับ จากนั้นเดินเข้ามาข้างในจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกอยู่ประมาณ 10 กว่าร้านครับ ขนาดผมไปวันธรรมดาคนก็ค่อนข้างเยอะครับ
สำหรับค่าเข้าชมปราสาทหินพนมรุ้งคนไทยราคา 20 บาทครับ ชาวต่างชาติราคา 100 บาท
ข้อมูลปราสาทหินพนมรุ้ง บุรีรัมย์
ปราสาทหินพนมรุ้งหรือปราสาทพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานในศิลปะเขมรที่มีความงดงาม ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง (ภูเขาพนมรุ้งคือภูเขาไฟเขาพนมรุ้งที่ดับสนิทแล้ว) มีภูมิทัศน์สวยงาม และมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกแสงอาทิตย์สาดส่องทะลุ 15 ช่องประตูของปราสาทพนมรุ้ง ทุกๆ ปีจะมีปรากฏการณ์ดังกล่าว 4 ครั้ง โดยตัวปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ปราสาทพนมรุ้งสร้างขึ้นในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ซึ่งนับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุด ดังนั้นเขาพนมรุ้งจึงเปรียบเสมือนเขาไกรลาสที่ประทับของเทพพระศิวะ
ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ปราสาทหิน พนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์และ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย
ปราสาทประธาน ปราสาทพนมรุ้ง ก่อด้วยหินทรายสีชมพู เชื่อกันว่าสร้างโดยพระนเรนทราทิตย์ เป็นผู้นำการปกครองชุมชนที่มีปราสาทพนมรุ้งเป็นศูนย์กลาง ภายในตรงกึ่งกลาง เรียกว่า "ห้องครรภคฤหะ" เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพที่สำคัญที่สุดคือ "ศิวลึงค์" ซึ่งแทนองค์พระศิวะ
บรรยากาศรอบๆบริเวณปราสาทหินพนมรุ้ง
สิ่งสำคัญอีกอย่างของปราสาทพนมรุ้งก็คือ ภาพสลักพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ทรงอยู่ที่ทับหลังของมณฑป ด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธานปราสาทพนมรุ้ง โดยพระนารายณ์บรรทมตะแคงขวา เหนือพระยาอนันตนาคราช ณ เกษียรสมุทร โดยมีพระนางลักษมีซึ่งเป็นเทพีแห่งความงาม และเป็นพระมเหสีคอยปรนนิบัติพัดวีมิให้ยุง ริ้น ไร มาไต่ตอมพระนารายณ์ เพื่อให้บรรทมหลับพักผ่อนให้สบาย
ผมใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆครับ จากนั้นก็เดินกลับออกมาด้านนอกครับ จากนั้นก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่สถานที่ต่อไปครับ
2 เที่ยวปราสาทเมืองต่ำ บุรีรัมย์
ออกจากปราสาทหินพนมรุ้งผมก็เดินทางไปเที่ยวต่อที่ปราสาทเมืองต่ำครับ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากขึ้นรถไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้นครับ
ปราสาทเมืองต่ำ อยู่ห่างจากปราสาทพนมรุ้ง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น คำว่าเมืองต่ำนี้ ไม่ใช่คำดั้งเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองเรียกโบราณสถานแห่งนี้ เพราะปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง
จอดรถเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาได้เลยครับ
สำหรับค่าเข้าชมก็ราคาเท่ากันครับ 20 บาทสำหรับชาวไทย และ 100 บาทสำหรับชาวต่างชาติ
ข้อมูลปราสาทเมืองต่ำ บุรีรัมย์
ประวัติความเป็นมาของปราสาทเมืองต่ำยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด หรือใครเป็นผู้สร้าง มีลักษณะของศิลปะขอมแบบบาปวนและแบบคลัง ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 ปราสาทเมืองต่ำถูกทิ้งร้างมาจนปี พ.ศ. 2490 จึงเริ่มมีชาวบ้าน มาตั้งถิ่นฐานที่นี่อีกครั้ง
พ.ศ. 2503-2539 กรมศิลปากรได้ดำเนินการสำรวจปราสาทเมืองต่ำจนเสร็จ และเปิดเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน
ผมใช้เวลาเดินเที่ยวที่ปราสาทเมืองต่ำประมาณ 30 นาทีครับ เนื่องจากว่าสถาที่ขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาเดินชมไม่นาน
จุดเด่นของปราสาทเมืองต่ำคือมี สระน้ำ 4 สระล้อมรอบปราสาท 5 ยอด แสดงถึงมหาสมุทรทั้ง 4 ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุตามคติพราหมณ์ สระน้ำดังกล่าวสันนิษฐานว่าใช้กักเก็บน้ำในการประกอบพิธีทางศาสนา
ปราสาทเมืองต่ำตั้งอยู่ใกล้สระน้ำหรือ บาราย ขนาดใหญ่ หรือเรียกกันว่า “ทะเลเมืองต่ำ” เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่ขุดขึ้นมาในสมัยที่สร้างปราสาทเมืองต่ำ
ระเบียงคดและซุ้มประตูก่อด้วยอิฐและหินทราย พื้นของซุ้มประตูยกสูงขึ้นจากพื้นลานโดยรอบ ประตูกลางซึ่งเป็นประตูหลัก ด้านข้างของซุ้มประตู ทำเป็นช่องหน้าต่างทึบด้านละ 2 ช่อง
ใครที่มาเที่ยวบุรีรัมย์ก็ลองแวะมาเที่ยวกันได้ครับ จากตัวเมืองขับรถมาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น มาดูสถานที่ประวิติศาสตร์ของไทยเรา แถมได้ความรู้อีกด้วย
หลังจากเที่ยวชมเสร็จแล้วก็ออกมาเอารถครับ เพื่อไปเที่ยวต่อ
บรรยากาศรื่นรมมากเลยครับ มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างๆปราสาทเมืองต่ำ จากนั้นผมก็ขับรถกลับเข้ามาที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ครับเพื่อไปเที่ยวต่อ
3 เที่ยวบุรีรัมย์ คาสเซิล (BURIRAM CASTLE)
BURIRAM CASTLE คือสถานที่เที่ยวหรือแลนมาร์คแห่งใหม่ของเมืองบุรีรัมย์ครับ ใครมาเที่ยวแล้วไม่มีเวลาไปที่ไกลๆมาที่นี่ก็ได้ครับ ระยะทางจากปราสาทเมืองต่ำก็ประมาณ 70 กิโลเมตรครับ ขับรถกลับเข้ามาประมาณ 1 ชั่วโมง
ด้านหน้าจะเป็นสนาม Chang ARENA ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือชื่อเดิมว่า I-MOBILE STADIUM ครับ วันที่ผมไปมีฟุตบอลแข่งขันด้วยคนเลยจะเยอะหน่อย
ข้อมูล บุรีรัมย์ คาสเซิล (BURIRAM CASTLE)
BURIRAM CASTLE เป็นส่วนหนึ่งของ BURIRAM UNITED ตั้งอยู่ระหว่างสนาม Chang ARENA และสนามแข่งรถระดับโลก CHANG INTERNATIONAL CIRCUIT พื้นที่ขนาด 93,000 ตร.ม. แบ่งเป็น Avenue Area 35,000 ตร.ม. ,ปราสารหินพนมรุ้งจำลอง 14,000 ตร.ม., สวนไม้ดอก ไม้ประดับและสวนตะบองเพชร 35,000 ตร.ม. (ออกแบบและจัดสร้างโดย สวนนงนุช), CAR PARKING 8,000 ตร.ม.
เป็นแหล่งอารยธรรมใหม่…ที่รวมหัวใจของบุรีรัมย์ไว้..ที่นี่ ที่เดียว ที่รวมความต้องการให้กับทุกคนได้ ไม่ว่าจะเป็นชาวบุรีรัมย์ เพื่อนพี่น้องจากจังหวัดใกล้เคียง นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
ที่นี่…ผสานโลก 2 ยุค ได้อย่างลงตัวที่สุด ความงดงามของอารยธรรมขอมในอดีต ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับโลกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วย มาตรฐานที่เป็นสากล เปิดบริการ ปี 2558 (ต้นไตรมาส 3 )
มีปราสาทพนมรุ้งจำลอง เป็นจุด landmark และมีสวนหินและสวนตะบองเพชรขนาดใหญ่
จากสนาม Chang ARENA ให้เดินต่อไปด้านหลังครับ ก็จะเจอกับ บุรีรัมย์ คาสเซิล (BURIRAM CASTLE) มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายเลยครับ ส่วนด้านหลังสุดจะเป็นปราสาทพนมรุ้งจำลอง
ร้านอาหาร ร้านกาแฟชื่อดังก็มีไว้บริการครับ
เดียวเราเดินไปดูจุดไฮไลน์ของที่นี่กันดีกว่าครับกับปราสาทพนมรุ้งจำลอง
ปราสาทหินพนมรุ้งจำลอง มีความคล้ายคลึงและขนาดเท่ากับของจริง แม้กระทั่งทำเลที่ตั้งซึ่งคำนวณให้ตรงกับจุดขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ผ่านประตู 15 ช่อง พร้อมระบบแสงสีเสียงรอบตัวปราสาทอีกด้วย
ใครไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ปราสาทพนมรุ้งของจริงก็สามารถมาเที่ยวชมที่นี่แทนได้ครับผม
มหาศิวลึงค์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่บุรีรัมย์ คาสเซิล
“มหาศิวลึงค์” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก “มหาศิวลึงค์” ตั้งอยู่ภายในสวน “สวนศิวะ12” โดย มหาศิวลึงค์ ทำจากหินทราย สูงกว่า 9 เมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก รายรอบด้วยแผ่นศิลาหินทราย “กามาสูตร” ซึ่งเปรียบดั่งจุดกำเนิดแห่งจักรวาล พร้อมเส้นทางวิ่งออกกำลังกายโดยรอบ ออกแบบไว้เพื่อให้ ชาวบุรีรัมย์ และนักท่องเที่ยวมาชื่นชมความสวยงาม และพักผ่อนหย่อนใจ
ภาพปราสาทพนมรุ้งจำลอง ที่บุรีรัมย์ คาสเซิล (BURIRAM CASTLE)
เดินชมตรงนี้เสร็จแล้วผมก็เดินกลับที่บริเวณด้านหน้าสนามบอลครับ
4 ดูบอลที่ ช้างอรีน่า บุรีรัมย์
สำหรับใครที่มาเที่ยวบุรีรัมย์ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาชมฟุตบอลนะครับ ถ้ามาตรงกับวันที่มีการแข่งขัน เพราะจังหวัดนี้ดังเรื่องกีฬาโดยเฉพาะทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
จาก Buriram Castle เดินมาสนามบอลช้างอรีน่า ระยะทางประมาณ 500 เมตรครับ
ข้อมูลสนามช้างอารีนา บุรีรัมย์
ช้างอารีนา (อังกฤษ: Chang Arena, ชื่อเดิม: ไอ-โมบาย สเตเดียม) มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ธันเดอร์คาสเซิลสเตเดียม (อังกฤษ: Thunder Castle Stadium) เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแห่งนี้มีความจุ 24,000 ที่นั่ง (ในปี พ.ศ. 2557 ได้ต่อเติมเป็น 32,600 ที่นั่ง) โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กและไฟเบอร์ ซึ่งสร้างด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท
วันที่ผมไปมีโปแกรมการแข่งขัน AFC Champions League 2018 ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นรายการระดับเอเชีย
ผมเลยไม่พลาดที่จะเข้าไปชมครับ โดยสามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันได้ที่หน้าสนามเลย
บรรยากาศภายในสนาม Chang Arena ครับ เป็นสนามฟุตบอลที่สวยอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยครับ
จบการแข่งขัน เสมอกับไป 1-1 ครับ
แข่งจบคุณเนวิน ชิดชอบ ก็เดินมาขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ครับ คนในสนามก็ร้องเพลงกัน
นักฟุตบอลและทีมงานก็จะมารวมตัวกันร้องเพลงกับกองเชียร์ บรรยากาศดูอบอุ่นดีมากๆเลยครับ
กิจกรรมอีกอย่างนึงของการมาชมฟุตบอลที่สนามช้างอรีน่า นั่นก็คือตอนฟุตบอลแข่งจบ กองเชียร์จะมาถ่ายรูปกับนักฟุตบอลของสโมสรครับ ชอบใครก็มารอถ่ายรูปได้เลยครับ
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย
พรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย
ดูบอลจบก็ค่ำพอดีครับ ได้เวลาหาโรงแรมเพื่อนอนพักที่บุรีรัมย์ 1 คืนครับผม
5 นอนพักซักคืนที่บุรีรัมย์
ตอนนี้จังหวัดบุรีรัมย์นั้นเจริญขึ้นมากครับ มีโรงแรมเปิดใหม่เยอะแยะมากมาย มีให้เลือกหลายราคา โดยทริปนี้ผมเลือกนอนที่โรงแรมคู (QOO Hotel) ที่พักหลักร้อยเปิดใหม่ ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะว่าราคาถูกและยังไม่มีรีวิวครับ
จากสนามช้างอรีน่ามายังโรงแรมระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรครับ
โรงแรมตั้งอยู่ที่ ซอย ธานี 9 ครับเลี้ยวเข้ามาเพียง 20 เมตรได้ มีที่จอดรถพอสมควรครับ ถ้าที่จอดรถฝั่งโรงแรมเต็ม ยังมีที่โล่งๆฝั่งตรงข้ามโรงแรมก็สามารถจอดได้เช่นกันครับ
ตรงนี้คือส่วนล็อบบี้เล็กๆกระทัดรัดของโรงแรม QOO Hotel ครับ ขั้นตอนเช็คอินก็เหมือนกับโรงแรมทั่วไปครับ คนไทยก็ใช้บัตรประชาชน ส่วนชาวต่างชาติก็ใช้พาสปอรต์ครับ มีค่ามัดจำกุญแจ 100 บาท ได้คืนตอนที่เราเช็คเอาท์ครับ
ห้องก็ตกแต่งสวยดีครับ โรงแรมยังใหม่ๆอยู่เลย ถึงจะเป็นโรงแรมขนาดเล็กแต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีให้ครบครับ เช่น
อุปกรณ์ในห้องน้ำ
ไดร์เป่าผม
ผ้าขนหนู
โทรทัศน์ (เคเบิล)
โทรศัพท์
ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง
เครื่องทำความร้อน
เครื่องปรับอากาศ
ม่านทึบแสง
ตู้เย็น
น้ำขวดฟรี
ตกแต่งได้เรียบๆแต่สวยดีครับ ชอบเลย
เตียงนอนนุ่ม สะอาดดีครับ
ห้องน้ำไม่ได้แบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งนะครับ เวลาอาบน้ำมันก็จะแฉะๆหน่อย
ภาพรวมของห้องพักที่โรงแรมคู (QOO Hotel) ครับ
ใครมีโอกาสมาเที่ยวบุรีรัมย์แล้วไม่รู้จะพักที่ไหนก็สามารถเอาไว้เป็นตัวเลือกได้ครับ สำหรับโรงแรมคู (QOO Hotel) แห่งนี้ วิธีการจองก็ง่ายๆครับเข้าไปตามเว็บจองโรงแรมทั่วไปก็มีให้จองครับ
ชมรีวิวโรงแรมอย่างละเอียดได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/04/QOO-Hotel-buriram.html
6 กินต้มเลือดหมูโกเหลียง บุรีรัมย์
ร้านโกเหลียงต้มเลือดหมูตั้งอยู่ตรงข้าม Cat Telecom ซึ่งมีตำนานเปิดมายาวนานกว่า 50 ปี ผมเห็นโบชัวร์จากโรงแรมเค้าแนะนำให้มาทาร้านนี้ครับ เลยตามรอยมาซะหน่อย ตำแหน่งที่ตั้งของร้านนี้ ถ้าเอาง่ายๆก็อยู่แถวๆสถานนีรถไฟบุรีรัมย์ครับ
จากโรงแรม Qoo Hotel ไม่ไกลครับ ไม่ถึง 2 กิโลเมตร
ร้านเป็นตึกแถวครับ อยู่ตรงข้ามกับ CAT ตรงไปจะเป็นหอนาฬิกา สถานีรถไฟบุรีรัมย์ครับ
ผมมาถึงร้านค่อนข้างสายแล้วครับคนเลยไม่เยอะ
สั่งต้มเลือดหมูกับข้าวมาลองชิมครับ
อร่อยดีครับ หอม เครื่องในทำมาสะอาดไม่มีกลิ่นเลย ใครมาเที่ยวบุรีรัมย์เช้าๆไม่รู้จะทานอะไรก็ลองมาชิมกันได้ครับผม
ออกจากร้านโกเหลียงต้มเลือดหมูผมยังไม่ได้ไปไหนต่อ เดียวจะเดินไปที่หน้าสถานีรถไฟครับเพื่อไปชมลูกชิ้นยืนกิน
7 ลูกชิ้นยืนกิน บุรีรัมย์
เมื่อมาบุรีรัมย์ สิ่งที่ห้ามพลาดอันดับต้น ๆ ได้แก่การมาชิม “ลูกชิ้นยืนกิน” หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ครับ ผมเลยไม่พลาดที่จะมาลองชิมซะหน่อย
ร้านลูกชิ้นยืนกินนั้นมีให้เลือกทานกันหลายร้านเลยครับ ตั้งเรียงติดๆกันบริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์
จุดสังเกตุจะมีรถเข็นแบบพ่วงมอเตอร์ไซค์หลายๆคันจอดให้บริการเรียงกันพร้อมป้ายร้านแต่ละร้านที่เป็นเอกลักษณ์ ชอบร้านไหนก็เข้าไปชมกันได้เลยครับ
ราคาแต่ละร้านจะขายเท่ากันครับ ไม้ละ 3 บาท 7 ไม้ 20 บาท
ยืนกินกันตรงนี้เลยครับ
ราคาครับ
จิ้มแล้วยืนกินที่หน้าร้านเลยครับ ได้บรรยากาศมากๆ
น้ำจิ้มอร่อยดีครับ เผ็ดๆ หวานๆ เปรี้ยวๆ ใครมาแล้วอย่าลืมมาลองชิมนะครับ เดียวจะเหมือนมาไม่ถึงบุรีรัมย์
อิ่มจากต้มเลือดหมูและลูกชิ้นยืนกินแล้วก็ได้เวลาไปยังจุดหมายต่อไปของผมแล้วครับ
8 เที่ยววนอุทยานเขากระโดง บุรีรัมย์
ใครที่มาบุรีรัมย์ควรจะแวะมาเที่ยวครับ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองด้วย สามารถชมวิวมุมสูงของจังหวัดบุรีรัมย์ได้อีกด้วย จากตรงสถานีรถไฟที่ผมไปกินลูกชิ้นมาที่เขากระโดงก็ไม่ไกลครับ
ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรครับ
ข้อมูล วนอุทยานเขากระโดง บุรีรัมย์
ภูเขาไฟกระโดงนับเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทมาแล้วหลายพันปี และเป็น 1 ใน 6 ลูกของภูเขาไฟใน บุรีรัมย์ ทั้งยังเป็นภูเขาไฟที่มีสภาพปากปล่องสมบูรณ์ ปัจจุบันได้มีการบูรณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด โดยในแต่ละปีจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปกราบไหว้ขอพรพระสุภัทรบพิตร และชมปากปล่องภูเขาไฟเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ทางจังหวัดต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดย รอบวนอุทยานภูเขาไฟกระโดงเพื่อให้ลูกหลานได้ชมความงดงามสืบไป
บันไดนาคราช วนอุทยานเขากระโดง
สร้างขึ้นเมื่อปี 2512 เพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปสักการะบูชาพระสุภัทรบพิตร ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขากระโดง จำนวน 297 ขั้น ชมการละเล่น พื้นบ้านในงานประเพณีขึ้นเขากระโดง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 และร่วมทำบูญงานประกวดกวน ข้าวทิพย์– ตักบาตรรเทโวโรหณะ ในช่วงก่อนวันออกพรรษาและวันออกพรรษาของทุกปี
ใครที่ไม่ได้ขับรถมาเองก็ต้องเดินขึ้นตรงนี้ครับ ความสูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
แต่ถ้าขับรถมาเอง ก็สามารถขับขึ้นไปจนถึงด้านบนเลยครับ ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดตรงนี้ โดยขับไปทางนี้ครับ ผ่านป้อมของเจ้าหน้าที่
ระหว่างทางจะผ่านสะพานแขวนลาวาก่อนครับ อยู่ที่เดียวกับปากปล่องภูเขาไฟเขากระโดง
ปากปล่องภูเขาไฟเขากระโดง มีอายุประมาณ 3 แสนถึง 9 แสนปี สูงจากระดับน้ำทะเล 265 เมตร ซากปากปล่องเป็นรูปพระจันทร์ ครึ่งซีก ยอดเนินเขาเป็นขอบปล่องด้านทิศใต้เรียกว่า เขาใหญ่ ส่วนยอดเนินเป็นขอบปล่องด้านทิศเหนือเรียกว่า เขาน้อย หรือ เขากระโดง ส่วนบริเวณที่เป็นขอบปล่องปะทุคือ บริเวณที่เป็นหุบเขา
ปัจจุบันมีสภาพเป็นสระน้ำเป็นซากภูเขาไฟที่ยังคง สภาพดีและ มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย มีเส้นทางเดินชมรอบปล่องและมีสะพานแขวนให้ยืนชมจากมุมสูงได้อย่างชัดแจน
อันนี้ก็คือบันไดนาคราช จากด้านบนครับ ใครที่เดินขึ้นมาก็จะมาสุดที่ตรงนี้
พระสุภัทรบพิตร วนอุทยานเขากระโดง
เป็นพระพุทธรูปคู่เมือง ภายในเศียรบรรจุพระธาตุ ประดิษฐานอยู่บนเขากระโดง เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนขนาดใหญ่ หน้าตัก กว้าง 12 เมตร ฐานยาว 14 เมตร หันหน้าไปทางทิศเหนือ สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2512 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายสุรวุฒิ บุญญานุสาสน์ ในขณะนั้น
ร่วมกับพ่อค้าประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในความคิดและโครงการต่างๆ ของหลวงพ่อบุญมา ปัญญาปโชโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเขากระโดง ได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นบริเวณยอดเขากระโดง เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชาของ พุทธศาสนิกชนทั่วไป จากจุดที่ตั้งขององค์พระสามารถมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองบุรีรัมย์ได้
สามารถชมวิวมุมสูงของเมืองบุรีรัมย์ได้จากตรงนี้ครับ
บนนี้วิวสวยมากครับ มองเห็น บุรีรัมย์ คาสเซิล (BURIRAM CASTLE) หรือ สนาม Chang ARENA ได้เลย
สิไหลเด้อ วนอุทยานเขากระโดง บุรีรัมย์
“สิไหลเด้อ” เป็นเครื่องเล่นชนิดหนึ่งซึ่งสร้างอยู่บนเขากระโดง นับเป็นเครื่องเล่นที่ลูกเล็กเด็กแดงที่มาเที่ยวเขากระโดงจะต้องลองเล่นเกือบทุกคน สำหรับวิธีการเล่นก็คือคนที่ต้องการจะเล่นจะต้องไปนั่งอยู่ด้านบนสุด จากนั้นก็สไลด์ปล่อยตัวลงมาตามร่องทางที่สร้างเอาไว้
ได้อารมณ์การเล่นสไลเดอร์ประมาณเล่นสวนน้ำ แต่สิไหลเด้อที่นี่เค้ามีกฎเหล็กอย่างหนึ่งว่า “ห้ามเล่นตอนฝนตกเด็ดขาด หรือช่วงที่มีน้ำขัง เพราะมันจะทำให้ลื่นไหลเร็วมากจะบังคับและหยุดไม่อยู่ นั่นอาจจะก่อให้เกิดอันตราย ฉะนั้นถ้าจะไหลเด้อต้องเล่นช่วงที่ไม่มีน้ำขังเท่านั้น
ผมใช้เวลาเที่ยวที่วนอุทยานเขากระโดงประมาณ 1-2 ชั่วโมงได้ครับ
ใครที่มาเที่ยวหรือแวะมาดูฟุตบอลที่จังหวัดบุรีรมย์ก็ลองมาเที่ยวกันดูครับ เดินทางมาไม่ยากเลย ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถขึ้นรถสองแถวสีชมพูมาได้ครับจากสถานีรถไฟ
จากนั้นผมก็ขับรถกลับสนามบินบุรีรัมย์ครับ เพื่อเอารถไปคืนและเดินทางกลับกรุงเทพครับ
ก่อนจะเอารถไปคืนผมต้องเอารถไปเติมน้ำมันก่อนครับ ทริปเที่ยวบุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน ผมใช้น้ำมันไป 650 บาทครับ
จากนั้นก็ขับมายังสนามบินคืนรถ แล้วก็เดินทางกลับด้วยสายการบินแอร์เอเชียไฟลท์รอบบ่ายครับ
ก็เป็นอันจบทริปเที่ยวบุรีรัมย์แบบสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้ครับ ใครมีเวลาเที่ยวไม่เยอะแบบผมก็ลองเอาทริปไปเป็นแนวทางได้ครับ อาจจะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของแต่ละคน
พบกันใหม่ทริปหน้าครับผม....สวัสดีครับ
ดีครับ
ตอบลบเยี่ยมมาก...ละเอียดดี
ตอบลบพรุ่งนี้จะเที่ยวตามครับ
ตอบลบรีวิวละเอียดและน่าสนใจดีมากเลยครับ
ตอบลบอธิบายดีจัง จะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไป ย้อนมา สำหรับคนไม่รู้เส้นทาง ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ