เที่ยวหลวงพระบางด้วยตัวเอง#6 พาชมการตักบาตรข้าวเหนียว วัดเชียงทอง พิพิธภัณฑสถานหลวงพระบาง
มาถึงรีวิวเที่ยวหลวงพระบางในวันสุดท้ายแล้วครับ วันนี้โปรแกรมก็ไม่มีอะไรมากครับ เดินเล่นในตัวเมืองหลวงพระบางจนถึงช่วงบ่ายๆ จากนั้นก็นั่งรถไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพ
โดยวันนี้ผมตื่นตั้งแต่เช้ามืดเลยครับ เพื่อที่จะออกมาชมการ ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนหลวงพระบางเองด้วย สถานที่สำหรับตักบาตรข้าวเหนียวนั้นก็หาไม่ยากครับ จะอยู่บริเวณหน้าวัดแสนครับ
เดินออกจากที่พักของผมมาประมาณ 100 เมตรก็จะมาถึงบริเวณที่ตักบาตรข้าวเหนียวแล้วครับ จะสงเกตุว่าพระภิกษุสงฆ์นั้นเริ่มออกเดินบิณฑบาตแล้วครับ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไปใส่ไม่ทันครับ เพราะจากจำนวนพระสงฆ์ในหลวงพระบางนั้นมีเยอะมาก เดียวท่านจะเดินมาอีกหลายสิบรูปเลยครับ
ทั้งนักท่องเที่ยวและคนหลวงพระบาง ต่างมานั่งรอตักบาตรข้าวเหนียว โดยมีเสื่อปูไว้ให้เป็นทางยาว
บริเวณนั้นก็จะมีข้าวเหนียวจำหน่ายให้สำหรับคนที่ใส่บาตรครับ ราคาประมาณ 10,000 กีบครับ
พระท่านเดินมาอีกแล้วครับ ก็นำข้าวเหนียวใส่ในบาตร เท่าที่ผมสังเกตุพระท่านจะเดินมาเป็นวัดๆครับ กลุ่มและวัด เดินต่อกันมาเรื่อยๆ
 |
| ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง |
บรรยากาศการใส่บาตรข้าวเหนียวของชาวหลวงพระบาง
 |
| ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง |
 |
| ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง |
หลังจากที่ชมการตักบาตรเสร็จแล้ว ผมก็เดินเล่นชมเมืองครับ เช้าๆอากาศที่หลวงพระบางไม่ร้อนครับ เดินสบายๆ เดินมาเจอโรงแรมนี้ซึ่งสวยคลาสสิคมาก ยิ่งมีรถโบราณมาจอดอยู่ยิ่งดูสวยย้อนยุคมากครับ หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่โรงแรมสายน้ำคาน เพื่อไปทานอาหารเช้าครับ
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ผมก็ได้ทำการเช่ารถจักรยานมาคันนึงครับ ราคา 20,000 กีบ เพื่อเอาไว้ขี่เที่ยวในหลวงพระบาง เป็นวิธีที่แนะนำเลยครับ สะดวกดี สามารถไปเที่ยวได้ทุกที่ในเมือง
 |
| วัดแสนสุขาราม (WatSaensukkaram) หลวงพระบาง |
ออกมาจากที่พักก็มาแวะที่ วัดแสนสุขาราม (WatSaensukkaram) หลวงพระบาง ครับ วัดที่เมื่อเช้ามาดูการตักบาตรข้าวเหนียวนั้นเองครับ
วัดแสนสุขาราม สร้างขึ้นในพ.ศ. 2261 ตามประวัติกล่าวว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้างขึ้นภายหลังที่นครหลวงพระบางแยกออกจากนครเวียงจันทน์ได้ 11 ปี โดยวัดแสนสุขารามได้รับกาสรบูรณะ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2475 ครั้งที่สองเมื่อพ.ศ.2500
 |
| วัดแสนสุขาราม (WatSaensukkaram) หลวงพระบาง |
จากนั้นผมก็ขี่จักรยานไปเรื่อยๆครับ ชิวๆอยู่แล้ววันนี้ ขับไปจนเจอช่วงที่แม่น้ำคาน กับ แม่น้ำโขงมาเจอกันครับ สะพานไม้ด้านล่างใครอยากลงไปถ่ายรูปต้องเสียค่าผ่านทางครับ
จากนั้นผมก็มาแวะเที่ยวที่ พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง หรือ พิพิธภัณฑสถานหลวงพระบาง ครับ บริเวณนี้ตอนกลางคืนก็จะเป็นตลาดมือนั่นเองครับ
ค่าเข้าชมราคา 30,000 กีบครับ แต่เนื่องด้วยที่พิพิธภัณฑสถานหลวงพระบางนั้นเค้าห้ามถ่ายภาพด้านในครับ ผมเลยไม่มีรูปมาฝากกัน
หอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง แต่เดิมเคยเป็นพระราชวังหลวงที่พำนักของเจ้ามหาชีวิตเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2447 ด้านในก็มีสิ่งของเก่าให้ชมกันทั้ง ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตหรือ ห้องฮับต้อน ท้องพระโรงใหญ่ ห้องรับแขกของมเหสี ยอดมณฑปทอง
หมายเหตุ ภายในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ห้ามการถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด และผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ นักท่องเที่ยวจึงต้องฝากกล้องถ่ายรูปและกระเป๋าสัมภาระ ในตู้เก็บของที่มีกุญแจหนาแน่น (โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย)
 |
| ร้านกาแฟประชานิยม หลวงพระบาง |
หลังจากที่ออกจากหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ก็ขับจักรยานไปเรื่อยๆ จนมาเจอกับร้านยอดนิยมของหลวงพระบางนั้นก็คือร้านกาแฟประชานิยมครับ แต่เนื่องจากผมนั้นทานอาหารเช้ามาจากโรงแรมแล้ว เลยไม่ได้มาแวะทานกาแฟที่นี่ครับ
แวะหลบแดด โค๊กกระป๋องที่หลวงพระบางราคา 5,000 กีบครับ ของกินของใช้ส่วนมากก็จะมาจากเมืองไทย แต่จะขายราคาแพงกว่า
และก็มาถึง วัดเชียงทอง หลวงพระบาง ครับ เป็นวัดที่ไม่ควรพลาดเลยครับเมื่อมาเที่ยวหลวงพระบาง ค่าเข้าชม 20,000 กีบครับ แต่ถ้าใครจะถ่ายรูปแค่ด้านนอกโดยไม่ได้เข้าไปในตัวพระอุโบสถ ก็ไม่ต้องเสียเงินครับ
วัดเชียงทอง (ลาว: ວັດຊຽງທອງ วัดเซียงทอง) เป็นวัดในแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2103 สร้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างที่สวยงามมาก
อาคารทรงโบราณมีลวดลายแกะสลักทาสีทองอร่าม ขนาดใหญ่ซึ่งคนลาวเรียกว่า “โรงเมี้ยนโกศ”หรือเป็นโรงเก็บพระโกศ, พระราชรถ, ราชยานของเจ้าชีวิตศรีสว่างวัฒนา ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อปีพ.ศ. 2502 และได้สร้างโรงเมี้ยนโกศแห่งนี้ขึ้นในปีพ.ศ. 2505 ภายในมีลักษณะเป็นโถงกว้าง ผนังด้านหน้าตั้งแต่หน้าบันลงมาจนถึงพื้นสามารถถอดออกเพื่อให้สามารถเคลื่อนราชรถออกมาได้ บริเวณกลางโรงเมี้ยนโกศเป็นที่ตั้งของราชรถไม้แกะสลักปิดทองคำเปลวรอบคัน มีพระโกศ 3 องค์ ตรงกลางเป็นโกศองค์ใหญ่
 |
| วัดเชียงทอง หลวงพระบาง |
 |
| วัดเชียงทอง หลวงพระบาง |
บริเวณด้านข้างและด้านหลังของพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของวิหารเล็กๆ 2 หลัง จุดเด่นของวิหารด้านหน้าคือ ที่ผนังด้านนอกแต่ละหลังตกแต่งด้วยกระจกสีตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาต่อกันเป็นรูปร่างต่างๆ เล่าเป้นนิทานพื้นบ้านลงบนผนังสีชมพู ดูสวยงามน่ารักตามแบบฉบับชาวหลวงพระบางเลยทีเดียว วิหารหลังเล็กด้านข้างพระอุโบสถที่มีชื่อว่า “วิหารแดง” ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่งดงาม
พระประธานซึ่งมีชื่อว่า “พระองค์หลวง”
 |
| ร้านโจมา (Joma) หลวงพระบาง |
เดินเที่ยวมาครึ่งวันก็เริ่มหิวครับ เลยมาแวะทานเค้กที่ร้านอาหารชื่อดังอีกร้านของหลวงพระบาง นั้นก็คือร้านโจมา (Joma) ครับ มีอยู่หลายสาขา ผมเลือกทานสาขาที่อยู่ริมแม่น้ำคานครับ ดูเงียบๆไม่วุ่นวายดีครับ
 |
| ร้านโจมา (Joma) หลวงพระบาง |
 |
| ร้านโจมา (Joma) หลวงพระบาง |
หลังจากนี้ผมก็ขับเอาจักยานไปคืนที่โรงแรมครับ แล้วก็เก็บของไปสนามบิน เดียวรีวิวตอนหน้าจะพาไปสนามบินหลวงพระบางจากในเมืองครับ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น