Search

รีวิวโรงแรม Hanaingen ที่พักน่ารักๆที่ Kusatsu Onsen มีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่ด้วย

Advertisements


สวัสดีกันอีกครั้งครับ..หลังจากที่รีวิวก่อนหน้านี่ผมพาไปเที่ยวที่ Kusatsu Onsen พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียดจากโตเกียวโดยใช้ jr tokyo wide pass ใครที่ยังไม่ได้อ่าน ก็สามารถอ่านได้ที่ >> www.mu-ku-ra.com/2019/11/Kusatsu-Onsen.html ได้ครับ จะนั้นจะมีรายะเอียดเยอะมาก สามารถตามรอยได้เลย

มาถึงรีวิวในตอนนี้ซึ่งผมตั้งใจที่จะแยกเขียนออกมาเนื่องจากมันมีรายละเอียดเยอะเหมือนกัน สำหรับโรงแรม Hanaingen ใครที่จะมาเที่ยวที่ Kusatsu Onsen แล้วกำลังมองหาที่พักราคาไม่แพงมาก อยู่ใกล้กับสถานีรถบัส แถมยังมีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่อีก ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ


สำหรับวิธีการเดินทางไปที่โรงแรมก็ไม่ยากเลยครับ สามารถเดินไปได้ใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีเท่านั้นเอง ระยะทางจากสถานีรถบัสไปถึงตัวโรงแรมประมาณ 110 เมตรเท่านั้นเอง


จากกูเกิ้ลแมพด้านบนจะเห็นว่าระยะทางใกล้มาก แต่ถ้าดูแค่นี้อาจจะงงได้สำหรับคนที่มาครั้งแรก แต่เดียวผมจะรีวิวการเดินไปยังโรงแรมแบบละเอียดๆให้ชมกัน


จากสถานีรถบัสให้เราเดินข้ามถนนมาครับ แยกที่มี LAWSON อยู่ขวามือ ข้ามไปแล้วให้เดินเข้าซอยเล็กๆ ตรงที่ลูกศรชี้


เดินไปทางซ้ายมือครับ จะมีซอยเล็กๆอยู่



ซอยนี้จะเป็นทางลงเนินนะครับ


เดินมานิดเดียวจะเจอบ้านหลังสีดำหลังนี้


จากนั้นให้เดินเลี้ยวขวาไป ก็จะเจอกับโรงแรม Hanaingen แล้วครับ หาง่ายมากๆ


ทางเข้าโรงแรมจะเป็นแบบนี้ครับ เป็นโรงแรมเล็กๆ เหมือนบ้านคนเลย ฮ่าๆ ใครไม่สังเกตุอาจจะเดินเลยได้ครับ


เปิดประตูเข้ามาจะเป็นแบบนี้ครับ โดยเราจะต้องถอดรองเท้าแล้วมาเปลี่ยนใส่รองเท้าสลิปเปอร์ของโรงแรม


มีมุมนั่งเล่นเล็กๆไว้บริการ


จากนั้นก็ทำการเช็คอินครับ เราต้องเสียภาษีเพิ่มคนละ 350 เยนด้วยนะครับ ทุกโรงแรมที่ Kusatsu Onsen จะเป็นแบบนี้หมด เหมือนเป็นภาษีสำหรับการแช่ออนเซ็นของที่นี่ครับ โดยจ่ายให้กับที่พักได้เลย เค้าจะออกใบเสร็จให้เราด้วย


ขั้นตอนเช็คอินก็ไม่มีอะไรมากครับเหมือนโรงแรมทั่วไป จากนั้นคุณป้าที่ทำการเช็คอินก็จะมาอธิบายส่วนต่างๆของที่พัก ว่ามีอะไรยังไงบ้าง โดยจะมีเอกสารที่ปริ้นมาแล้ว มีทั้งหมด 4 ภาษาเลยทั้ง ญี่ปุ่น อังกฤษ ไทย จีน


คุณป้าก็จะอธิบายเราเป็นภาษาญี่ปุ่น จากนั้นก็จะชี้มาที่ภาษาไทยบนกระดาษ เราก็จะเข้าใจที่แกพูดทันที เป็นวิธีการสื่อสารที่ดีมากเลยครับ ฮ่าๆ ทำให้เข้าใจกันได้แม้จะฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องก็ตาม


เมื่ออธิบายส่วนต่างๆหมดแล้ว ทางโรงแรมก็จะให้เรามานั่งพักผ่อนที่ห้องอาหารครับ เดียวจะมีของหวานและชาเชียวร้อนๆมาบริการ เป็นเหมือนเวลคัมดริ้งนั่นเอง


ห้องอาหารที่ Hanaingen มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เราสามารถมานั่งได้ตลอดทั้งวัน มีน้ำผลไม้ ชา กาแฟ บริการทั้งวันมานั่งกินได้เลย รวมทั้งเป็นที่สำหรับทานอาหารเช้าด้วย โดยอาหารเช้าเราจะต้องเลือกเวลาที่จะลงมาทานตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้วครับ โดยผมเลือกลงมาทานอาหารเช้าเวลา 7.40 น.


เครื่องดื่มตรงนี้บริการฟรี 24 ชั่วโมงครับ


สำหรับผู้เข้าพักที่เช็คอินก่อนเวลา 19:00 น. จะได้รับขนมหวานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและชาเขียวฟรีครับ ตามรูปนี้เลย จะยกมาเสิร์ฟเป็นชุดๆ ขนมจะมี 2 แบบ รสชาติจะออกหวานๆหน่อย ทานคู่กับชาเขียวร้อนๆเข้ากันพอดีเลย


Advertisements



ชาเขียวก็จะมาเซตแบบนี้ครับ ชงทานเองได้เลย


ขนมนี้คล้ายๆโมจิ แป้งข้างนอกจะนุ่มๆใส้ถั่วแดง หวานไปนิดแต่ก็อร่อยดีครับ


หลังจากที่ทานขนมเสร็จเดียวไปชมห้องพักกันต่อครับ


โซนห้องพักจะอยู่ที่ชั้น 2 ทั้งหมดครับ


ผมได้ห้องหมายเลข A-6 ชื่อห้อง Uzura-mame



ห้องพักของที่นี่จะเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่นเลยครับ ที่พื้นจะปูด้วยเสื่อ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครับ และก็สะอาดมากๆด้วย


มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าจะมีที่แขวนเสื้อ ส้วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำและอ่างล่างหน้าแปรงฟันครับ


ผมได้ห้องแบบเตียงคู่


ส่วนของอ่างล้างหน้ามีน้ำอุ่น เจลล้างมือ มีปลั๊กให้เสียบเผื่อสาวๆต้องการหนีบหรือไดร์ผมตรงนี้


ส่วนห้องน้ำจะเป็นแค่ชักโครกอย่างเดียวนะครับ ก็คือจะไม่สามารถอาบน้ำได้ในห้องพัก โดยเราจะต้องลงไปอาบน้ำที่ชั้น 1 ซึ่งจะมีห้องน้ำอยู่ 4 ห้อง ทุกห้องจะมีบ่อออนเซ็นส่วนตัวอยู่ในนั้นด้วย


เดียวดูไฮไลท์ของที่นี่ครับ ก็คือห้องอาบน้ำที่มีออนเซ็นให้เราแช่ได้ โดยจะต้องลงที่ชั้น 1 ครับ


จะมีห้องอาบน้ำเรียงกันอยู่ทั้งหมด 4 ห้อง สังเกตุให้ดีๆที่หน้าห้องจะมีรูปภาพติดไว้ครับ ว่าบ่อออนเซ็นแต่ละห้องน่าตาจะเป็นยังไง ชอบห้องไหนก็เลือกได้เลยครับ


วิธีการใช้ห้องน้ำที่นี่ก็จะมีวิธีสังเกตุแบบนี้ครับ โดยที่หน้าห้องจะมีป้ายแขวนไว้ ถ้าไม่มีคนอยู่ในห้องน้ำสามารถเข้าไปใช้ได้เลย ป้ายจะหันฝั่งที่เขียนว่า you can use


ถ้าเราเข้าไปใช้แล้วต้องหันป้ายอีกฝั่งออกมาครับ ฝั่งคำว่า its being used คนที่จะมาใช้จะได้รู้ว่าห้องนี้กำลังมีคนให้งานอยู่


ภายในห้องน้ำก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครันครับ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนก็คือส่วนที่ให้เราเปลี่ยนเสื้อผ้า มีตะกร้าให้ใส่ และมีอ่างล้างหน้าอยู่บริเวณนี้ด้วย


มีครีมต่างๆให้ใช้


มีไดร์เป่าผมด้วย แต่ถ้าใครพกมาเองก็สามารถไปเป่าบนห้องพักได้ครับ


เข้ามาส่วนของบ่อออนเซ็น ก็จะมีที่ให้อาบน้ำ ชำระล้างร่างกายก่อนครับ เหมือนออนเซ็นหลายๆที่ ที่ผมเคยไปแช่มา มีสบู่ ยาสะผม ครีมนวดผม เตรียมไว้ให้แล้ว อาบน้ำเสร็จแล้วก็สามารถลงไปแช่ได้เลย แต่บอกก่อนว่าน้ำค่อนข้างจะร้อนมาก ฮ่าๆ ต้องค่อยๆลงไปแช่อย่างช้าๆ


โดยน้ำที่เราแช่นั้นจะมาจาก 'ยุบะทะเกะ' (Yubstake) บ่อน้ำพุร้อนกลางเมือง Kusatsu Onsen นั่นเองครับ จะมีกลิ่นของกำมะถันด้วย

ที่ Kusatsu Onsen ซึ่งเป็นเมืองที่ติดอันดับ 1 ใน 3 แหล่งอนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และมีปริมาณน้ำแร่ธรรมชาติผุดขึ้นมามากที่สุดในประเทศ (มากกว่า 32,300 ลิตรต่อนาที) น้ำแร่มีฤทธิ์เป็นกรด อุณหภูมิที่บ่อต้นน้ำแร่สูงถึง 51-94 องศา มีสรรพคุณในการรักษาโรคและฆ่าเชื้อที่ดีเยี่ยม

ที่โรงแรม Hanaingen มีทั้งหมด 4 ห้อง บ่อออนเซ็น 3 แบบครับ ซึ่งผมได้ถ่ายรูปมาให้ชมครบทั้ง 3 แบบ ใครชอบแบบไหนก็จัดไปครับ หรือจะแช่ทุกห้องก็ย่อมได้ เพราะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงเลย





หลังจากแช่ตัวเสร็จจะมีห้องให้เรานั่งพักดื่มน้ำ


หลังจากที่แช่ออนเซ็นเสร็จก็ขึ้นไปนอน หลับยาวจนเช้า โดยผมจะต้องลงไปทานอาหารเช้าในเวลา 7.40 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แจ้งไว้ตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้ว


อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาที่ห้องอาหาร


นั่งที่โต๊ะชาเขียวร้อนๆก็มาเสิร์ฟก่อนเลย


จากนั้นเชฟของโรงแรมก็จะยกเซ็ตอาหารเช้ามาเสิร์ฟด้วยตัวเองครับ พร้อมกับอธิบายว่าแต่ละอย่างทำมาจากอะไร ซึ่งผมเองก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จับใจความได้ประมาณว่า ทำมาจากธัญพืชและถั่วชนิดต่างๆของท้องถิ่นที่นี่ครับ


เป็นข้าวญี่ปุ่นคลุกกับธัญพืชต่างๆ โดยข้าวนี้สามารถเติมได้เรื่อยๆครับ จะมีคุณป้าอีกคนคอยเดินมาถามว่าจะรับข้าวเพิ่มมั้ย


มีแซลมอล 1 ชิ้น ผักต่างๆ เต้าหู้ และถั่วชนิดต่างๆ


อันนี้จะเป็นของหวานครับ


อันนี้เป็นภาพรวมของเซ็ตอาหารเช้าที่โรงแรม Hanaingen ดูดีเลยทีเดียวครับ หลังจากที่ทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาเตรียมตัวกลับเข้าไปที่โตเกียวแล้วครับ


ขั้นตอนเช็คเอาท์ง่ายๆเลยครับ แค่คืนกุญแจเท่านั้นเอง


ผู้ชายในรูปก็คือเชฟที่ทำอาหารเช้าให้ทานครับ เค้าจะเดินออกมาส่งตอนที่เราเช็คเอาท์ มีพูดกันนิดหน่อย โดยเค้าจะถามว่าเราจะไปเที่ยวไหนต่อ โดยผมจะแวะเที่ยวที่ karuizawa ก่อนที่จะเข้าโตเกียว สามารถชมวิธีการเดินทางจาก Kusatsu Onsen ไป karuizawa ได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2019/11/Kusatsu-onsen-to-karuizawa.html ครับผมได้เขียนรีวิวไว้แล้ว

ก็เป็นอันจบครับ สำหรับรีวิวสั้นๆของโรงแรม Hanaingen ที่พักสุดน่ารัก ใครที่มีแผนจะมาเที่ยวที่ Kusatsu Onsen แล้วอยากจจะค้างซักคืน ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ราคาไม่สูงมากจนเกินไป มีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่อีกด้วย โดยราคาของห้องพักจะแตกต่างกันออกไปในช่วงเวลา ยังไงก็ลองเช็คกันดูได้ครับ

เช็คอินได้ตั้งแต่ : 15:00  เช็คเอาต์ได้จนถึง: 10:00

ราคาเริ่มต้นที่ : 4,xxx บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเข้าพัก



แผนที่โรงแรม Hanaingen


Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น