มาถึงรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่สองครับ...ใครที่ยังไม่ได้ชมตอนแรกซึ่งเป็นวันที่ผมเดินทางมาถึง โดยบินมาด้วยสายการบิน Hong Kong Airlines ต่อเครื่องที่ฮ่องกง ก็สามาชมได้ที่ >> https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/HongKong-Airline-japan.html ครับ
สำหรับตอนนี้ผมจะพาเข้าเมืองและไปเช็คอินที่โรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผมจองมาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินครับ โดยผมจะนอนที่โรงแรมแห่งนี้ทั้งหมด 2 คืน แต่ก่อนจะรีวิวโรงแรมแห่งนี้ ผมจะต้องไปจัดการเรื่องพาสและตั๋วรถไฟที่ผมทำการจองล่วงหน้ามาจากเมืองไทยซะก่อน
ทริปนี้ผมจะใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass ครับซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งหมด 6 วันโดยวันที่ใช้ไม่จำเป็นต้องติดกันครับ ซึ่งก่อนที่บินมาที่ญี่ปุ่นผมได้ทำการจองที่นั่ง shinkansen ล่วงหน้ามาแล้ว และเลือกสถานที่รับตั๋วไว้ที่สนามบินนาริตะ ทอลมินอล 2
ใครอยากจองที่นั่งล่วงหน้ามาก่อนก็ดูวิธีจองได้ที่ >> http://www.mu-ku-ra.com/2018/02/jrpass-train-reservation.html ผมทำรีวิวไว้แล้วครับ
เมื่อผมเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ทอลมินอล 2 ก็เดินไปที่ JR East Tavel Service ซึ่งอยู่ตรงที่เราขึ้นรถไฟเข้าเมืองครับ หาไม่ยากเดินออกมาจากส่วนของผู้โดยสารขาออกแล้วลงบรรไดเลื่อนมาก็จะเจอครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนการไปแลกตั๋วจริงก็คือ
1.หมายเลขการจอง
2.บัตรเครดิตที่ใช้จอง
3.Passport
4.Passที่เราใช้
เมื่อถึง JR East Tavel Service ก็ต่อแถวเพื่อเข้าไปแลกตั๋วด้านในครับ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเราจองที่นั่งออนไลน์มาแล้ว เค้าจะขอบัตรเคดิตเรา ก็ยื่นไปให้เค้าทั้งหมดเลยครับ
เสร็จแล้วเราก็จะได้ตั๋วรถไฟมา ครบถ้วนตามที่เราจองไว้ครับ พร้อมกับพาส JR East-South Hokkaido Rail Pass ตัวจริง
ส่วนการเดินทางเข้าโตเกียวนั้น ผมจะนั่ง Nex และเปิดใช้พาสวันนี้เป็นวันแรกครับ แต่เนื่องจากมันจองล่วงหน้าไม่ได้เพราะมันเป็นวันเดียวกับวันรับตั๋ว ผมก็แค่แจ้งเจ้าหน้าที่ตอนไปรับตั๋วว่า ขอจอง Nex เข้าเมืองเพิ่มไปอีก 1 เที่ยวครับ
เมื่อจัดการเรื่องตั๋วเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าเมืองกันแล้วครับ โดยผมจะนั่ง Narita Express ไปลงที่สถานีโตเกียวครับ
เป็นการเริ่มใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass วันแรกด้วยครับ วิธีการใช้พาสเวลาขึ้นรถไฟต่างๆถึงแม้ว่าเราจะมีตั๋วแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเข้าช่องปกติที่เสียบบัตรได้นะครับ ต้องไปเข้าช่องที่มีเจ้าหน้าที่อยู่เท่านั้น เมื่อเราใช้ครั้งแรกของวันเจ้าหน้าที่ก็จะพิมพ์วันที่ใช้ในช่องของพาส วันไหนที่ใช้พาสก็จะพิมพ์วันที่ลงไป วันไหนที่ไม่ได้ใช้ก็ไม่ต้องพิพม์ครับ โดยจะมีช่องใช้พิมพ์ 6 ช่อง หรือ 6 วันนั้นเอง
สำหรับวิธีการขึ้น Narita Express ก็ไม่ยากครับ ดูจากตั๋วที่เราได้มา จะระบุรายละเอียดว่าเราต้องไปขึ้นรถกี่โมง ตู้หมายเลขอะไร และที่นั่งเท่าไหร่
ต้นทาง : Narita api terminal 2-3
ปลายทาง : Tokyo
เวลา : 16:22
ตู้รถ : Car 2
เลขที่นั่ง : 11B
วิธีไปขึ้นก็ง่ายๆครับเดินตามป้าย N'EX Narita Express ไปได้เลยครับ
มารอรถตามหมายเลขตู้ของเราครับ ของผมก็คือตู้หมายเลข 2
รถจะมาและออกตามเวลาบนตั๋วของเราครับ
ขึ้นรถมาแล้วก็ไปนั่งตามหมายเลขบนตั๋วครับ ห้ามนั่งมั่วนะครับ เพราะว่าขบวน N'EX Narita Express จะเป็นขบวนแบบจองที่นั่งทั้งหมดครับ
นั่งมาประมาณชั่วโมงกว่าก็มาถึงปลายทางที่สถานีโตเกียวครับ
สำหรับโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho นั้นจะอยู่ที่สถานีใต้ดิน Kayabacho สาย Tozai Line ครับ ให้เดินตามป้าย Marunouchi Line เพื่อออกไปด้านนนอกครับ
วิธีออกจากสถานี JR Tokyo เพื่อไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Tokyo ก็แค่โชว์พาสให้เจ้าหน้าที่ดูครับ ก็เดินออกมาได้เลย
เนื่องจากว่าโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินและผมจะต้องเดินทางไป - กลับ โรงแรมอีกในคืนนี้ เลยทำการซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบ 24 ชั่วโมงมาใช้ครับ โดยสามารถกดซื้อจากตู้จำหน่ายตั๋วได้เลยในราคา 600 เยนครับ
มาดูเส้นทางจากสถานีโตเกียวเพื่อไปยังโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ต้องนั่ง 2 ต่อครับ
ต่อแรกนั่งสาย Marunouchi Line
จาก M17 Tokyo ไปลง M18 Otemahi
ต่อที่สอง Tozai Line
นั่งจาก T09 Otemahi ไปลงที่ T11 Kayabacho
เดินตามป้าย Marunouchi Line ได้เลยครับผม
ไปรอขึ้นรถที่ Platform หมายเลข 2 เพื่อไปยังสถานี Otemahi
วิธีการดูว่าเราขึ้นรถไฟถูกฝั่งหรือเปล่าก็ให้สังเกตุป้ายครับ ว่ารถจะไปทางไหน ในรูปก็คือจาก M17 ไปยัง M18 แสดงว่ามารอขึ้นถูกฝั่งแล้วครับ
นั่งมาแค่ป้ายเดียวครับเมื่อถึงสถานี Otemahi เราจะต้องเปลี่ยนสายรถไฟไปยังสาย Tozai Line ครับ
ก็ให้เดินตามป้าย Tozai Line ได้เลย ระยะทางค่อนข้างจะไกลหน่อย
เดินตามป้าย Tozai Line ได้เลยครับ
ถึงสถานี Otemahi ของสาย Tozai Line ก็เสียบบัตรเข้าไปด้านในได้เลยครับ
เราจะต้องนั้งจาก T09 Otemahi ไปลงที่สถานี T11 Kayabacho
นั่งมาแค่ 2 สถานีก็ถึงแล้วครับ
ใครที่จะมาพักที่ Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ก็ให้นั่งมาลงที่สถานี Kayabacho ครับ
จากนั้นก็ให้เดินไปทางออก A4 ครับ
เสียบบัตรเพื่อออกไปด้านนอกสถานีครับ
ถึงทางออก A4 ก็เดินขึ้นไปได้เลยครับ
เมื่อขึ้นมาด้านบนก็จะมองเห็นโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วครับ
เดินข้ามถนนไปได้เลยครับ
มีร้านอาหารอยู่หน้าโรงแรมด้วย ไม่อดตายหละครับ ฮ่าๆ
จากสถานีเดินมาไม่เกิน 5 นาทีครับ
ล็อบบี้ของโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ครับ ดูเก่าๆหน่อยแต่ก็สะอาดดีครับ
มีโต๊ะ เก้าอี้ สำหรับนั่งทานอาหารเช้า
มีอุปกรณ์ต่างๆ สามารถหยิบไปใชเได้ฟรีครับ
สำหรับเอกสารที่ใช้ในการเช็คอินก็ใช้เพียงพาสปอตร์ของผู้เข้าพักครับ จากนั้นก็จะได้คีย์การ์ดมา เดียวขึ้นไปดูห้องพักกันครับ
ได้ห้องหมายเลข 817
ประตูใช้ระบบคีย์การ์ดเหมือนโรงแรมเท่าไปครับ
เปิดประตูเข้ามาก็เจอห้องประมาณนี้ครับ เล็กๆตามสไตล์โรงแรมในญี่ปุ่นเลยครับ ฮ่าๆ แต่ถึงห้องจะเล็กแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนะครับ
เตียงนอน 2 คนก็จะเบียดๆหน่อย
มองย้อนกลับไปก็จะมีตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำอยู่แถวๆนั้นครับ
สามารถปรับไฟ ตั้งนาฬิกาปลุก ชาร์ตแบตได้ที่หัวเตียงครับ
ส่วนห้องน้ำก็กระทัดรัดตามสไตส์ครับ มีอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบเลยทั้ง ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด โลชั่น
น้ำอุ่นไหลแรงมากๆ อาบกันซะใจเลย
วิวจากห้องพักก้ประมาณนี้ครับ
ถึงจะเป็นโรงแรมราคาไม่แพง แต่ที่ Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ก็มีอาหารเช้าให้นะครับ สามารถไปรับคูปองได้ที่ล็อบบี้ตอนเช้าครับ เป็นเซตเมนูให้เลือก 2 แบบ
นำคูปองไปแลกอาหารเช้าได้ที่นี่ครับ
เป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆครับ รองท้องพอได้อยู่ฮ่าๆ เป็นแบบแรกครับมีไข่ต้ม สลัด ขนมปังปิ้งร้อนๆ และก็เลือกเครื่องดื่มได้ 1 อย่าง
อีกเซตจะเป็นครัวซองต์ สลัด โยเกิต และก็เลือกเครื่องดื่มได้ 1 อย่างครับผม
ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกของโรงแรมใกล้สถานีรถไฟในโตเกียว อีกแห่งครับสำหรับ Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho ใครกำลังหาโรงแรมหรือกำลังหาข้อมูลก็เก็บเอาไว้เป็นตัวเลือกได้ครับผม
หลังจากที่ผมเช็คอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อย แต่ยังไม่นอนนะครับ มาถึงญี่ปุ่นแล้วจะนอนง่ายๆได้ยังไง
สำหรับรีวิวตอนต่อไปจะพาไปชิมราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen สาขา Ueno กันครับ และเดินเล่นแถวตลาด ameyoko ก่อนจะกลับมานอนพัก
เพื่อนๆสามารถชมรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นครบทุกตอนได้ที่ https://www.mu-ku-ra.com/2018/02/review-japan-2018.html
ชมรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทั้ง 18 ตอนอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #01 รีวิววิธีเดินทางจากสุวรรณภูมิด้วย Hong Kong Airlines ต่อเครื่องไปลงนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #02 รีวิวโรงแรม Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #03 พาชิมราเม็งข้อสอบ Ichiran Ramen สาขา Ueno พร้อมวิธีสั่งและวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #04 พาเที่ยวสวนสตรอว์เบอร์รี (Ichigo mura)ตัดแล้วกินสดๆจากต้น พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #05 เดินเล่นย่าน Ueno พาชิมมันปูย่างร้าน isomaru suisan สาขาตลาด ameyoko
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #06 พาเดินเที่ยว karuizawa outlet มีทุกแบรนด์ช็อปปิ้งพร้อมวิธีเดินทางจากโตเกียว
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #07 รีวิวโรงแรม Manza Kogen Hotel แช่ออนเซ็นกลางหิมะ พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #08 รีวิววิธีเดินทางไป HAKODATE ด้วย JR East-South Hokkaido Rail Pass ไม่ยากเลย
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #09 รีวิวโรงแรม Hotel Sharoum-inn 2 ที่พักราคาถูกใกล้สถานี JR HAKODATE
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #10 รีวิวพาเที่ยว HAKODATE 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #11 เดินทางไป Sapporo พาเที่ยว Tenguyama Ropeway ชมวิวคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #12 รีวิวโรงแรม Hotel Sunroute Sapporo ที่พักราคาไม่แพง ใกล้สถานี Jr Sapporo
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #13 พาเที่ยว Sapporo 1 วัน เก็บครบ ที่เที่ยว ที่กิน พร้อมวิธีเดินทางอย่างละเอียด
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #14 ไปชิมราเมง ที่ตรอกราเมน Ramen Alley Sapporo พร้อมวิธีเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #15 รีวิววิธีเดินทางจาก Sapporo ยิงยาวไปสนามบิน Narita ด้วย JR East-South Hokkaido
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #16 รีวิวโรงแรม Narita Airport Rest House ที่พักใกล้สนามบิน มีรถรับ-ส่ง สะดวกมากๆ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #17 กลับไทยด้วย Hong Kong Airlines พร้อมวิธีและขั้นตอนต่างๆ ที่สนามบินนาริตะ
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว #18 พาเที่ยว HongKong 1 วัน ระหว่างรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพ พร้อมวิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น