เที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน
สวัสดีครับ...วันนี้จะพาไปหาที่เที่ยวใกล้ๆกรุงเทพ ใครที่เบื่อทะเลแล้วลองมาเที่ยวแนวธรรมชาติกันบ้างดีกว่าครับ โดยทริปนี้ผมจะขับรถไปเที่ยวที่เขาใหญ่ ซึ่งที่นี่นั่นมีสถานที่เที่ยวเยอะมากๆ ร้านอาหารสวยๆก็เยอะเหมือนกัน ใครมีเวลาเยอะๆก็สาารถเก็บที่เที่ยวได้เยอะ ส่วนผมมีเวลาเที่ยวแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น ส่วนจะไปเที่ยวไหนบ้างเดียวไปชมกันเลยครับผม
เขาใหญ่นั้นมีระยะทางห่างจากกรุงเทพประมาณ 180 กิโลเมตรครับ ขับรถก็จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงได้ ยังก็ลองวางแผนกันดูครับว่าจะออกจากกรุงเทพกี่โมง ถนนหนทางก็ดีเลยครับ ขับไม่ยากเท่าไหร่ วิ่งออกถนนพลโยธิน ไปทางสระบุรี เข้าถนนมิตรภาพ ใครกลัวจะหลงผมแนะนำให้โหลดแอฟ กูเกิ้ลแมพมาใช้ครับ เพราะทริปนี้ผมใช้กูเกิ้ลแมพนำทางมาเหมือนกัน เดียวไปเริ่มเที่ยวเขาใหญ่กันเลย
01 วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หลวงพ่อขาว เขาใหญ่
จุดแรกที่จะแวะเที่ยวนั้นก็คือวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หลวงพ่อขาว เขาใหญ่ ครับวิธีการเดินทางมาก็ไม่ยากครับปักมุดจากกูเกิ้ลแล้วขับตามมาได้เลย
หลายๆคนคงจะเคยเห็นภาพสวยๆ จากคนที่มาเที่ยวเขาใหญ่ เป็นพระองค์ใหญ่สีขาวตั้งอยู่บนเขามีถนนมุ่มตรงไปยังองค์พระ ซึ่งผมเห็นภาพแล้วก็คิดไว้ว่า จะต้องมาเที่ยวถ่ายรูปให้ได้ เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวเขาใหญ่รอบนี้เลยไม่พลาดครับ หาข้อมูลมาได้ว่าวัดนี้คือ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือ วัดหลวงพ่อขาว นั่นเองครับ
สำหรับการเดินทางมาวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือวัดหลวงพ่อขาว ก็ไม่ยากครับ เริ่มต้นเดินทางจากริมถนนมิตรภาพ หลักกิโลเมตร ๑๕๑ มุ่งหน้า จ.นครราชสีมา (สังเกตุง่าย ๆ พบเห็นร้าน Fly Now ทางขวามือ ก็กลับรถได้เลย) ที่ตั้งของวัดอยู่ห่างจากถนนใหญ่ตรงไปประมาณ ๒ กม.ครับ เลี้ยวซ้ายจากถนนใหญ่เข้ามาก็พบแล้วครับ หลวงพ่อขาว วิธีสังเกตุง่ายๆก็คือเราจะสามารถมองเห็นหลวงพ่อขาวตั้งเด่นสง่าอยู่บนเขา ถ้าเห็นแบบนี้ก็แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว
ข้อมูลวัดหลวงพ่อขาว เขาใหญ่
วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า หมู่บ้านกลางดง ทางฝั่งขวาของทางหลวงหมายเลข ๒ (ถนนมิตรภาพ) ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๑๕๐ มีทางแยกเข้าไปอิก ๒ กิโลเมตร มีถนนราดยางเข้าไปถึงวัด
ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรสีขาว ขนาดใหญ่ ชื่อว่า "พระพุทธสกลสีมามงคล" ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า หลวงพ่อขาว ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๗.๒๕ เมตร สูง ๔๕ เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน ๑๑๒ เมตร ทางซ้ายและทางขวาขององค์พระพุทธรูป
สร้างโค้งเว้าในลักษณะใบโพธิ์ บันไดทั้งหมด มี ๑,๒๕๐ ขั้น หมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา
องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เหนือพื้นดิน ๑๑๒ เมตรหรือ ๕๖ วา หมายถึง พระพุทธคุณ ๕๖ ประการ
องค์พระสูง ๔๕ เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ ๔๕ พรรษา หรือเรียกว่า ทรงทำพุทธกิจอยู่ ๔๕ พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้ว
ข้อมูลจาก dhammathai
เมื่อขับรถเลี้ยวซ้ายมาจากถนนมิตรภาพก็จะเห็น พระพุทธสกลสีมามงคล หรือ หลวงพ่อขาว องค์ใหญ่ เป็นมุมที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันครับ แต่ก่อนจะลงมาถ่ายรูปบนถนนแบบนี้ก็ควรจะดูรถให้ดีนะครับ เพื่อความปลอดภัย
แต่เนื่องจากว่าผมไปเที่ยววันธรรมดา เลยไม่มีรถวิ่งบนถนนเลย นานๆจะมาซักคันนึง เลยถ่ายรูปได้สะดวกหน่อย
ขับผ่านซุ้มประตูวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม เข้าไปด้านใน มีที่จอดรถไว้บริการฟรีครับ มีร้านค้าขายของกิน ของฝาก ของที่ระลึกอยู่จำนวนหนึ่ง
พระพุทธสกลสีมามงคล สร้างขึ้น เพื่อเป็นการน้อมเกล้าฯ ถวายโดยพระราชกุศล เป็นพระบรมราชานุสรณ์พิเศษ และได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระนามจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทั้งขอพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อของ 2 พระองค์ อัญเชิญประดิษฐานที่ฐานพระพุทธรูป และทรงพระราชทานพระนามว่า "พระพุทธสกลสีมามงคล" แต่ผู้คนทั่วไปมักเรียกว่า "หลวงพ่อขาว" บ้าง "หลวงพ่อใหญ่" บ้าง
หลังจากที่อยู่เที่ยวที่วัดหลวงพ่อขาวอยู่นานพอสมควรก็ได้เวลาไปที่ต่อไปแล้วครับผม
02 PRIMO PIAZZA เขาใหญ่
จากวัดหลวงพ่อขาวมายัง PRIMO PIAZZA เขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตรครับ วิธีเดินทางก็เหมือนเดิมครับขับรถตามกูเกิ้ลแมพมาได้เลย
ใครที่ขับรถมาเที่ยวเขาใหญ่ ก็คงจะเคยผ่าน PRIMO PIAZZA กันอย่างแน่นอนครับ ตึกเหลืองๆทรงยุโรป จากเมื่อก่อนชื่อว่า Primo Posto เป็นเพียงร้านอาหารเเละมีสวนองุ่นด้านหลังเท่านั้น ภายหลังการเปลี่ยนชื่อจึงสร้างอาคารเพิ่มขึ้น จุดเด่นที่นี่คือมีอัลปากา เมอริโน่ ลา เลี้ยงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปให้อาหารกันด้วยครับ
เสียค่าเข้าชม 100 บาท เด็ก 50 บาท บัตรเข้าชมสามารถนำไปแลกอาหารอัลปาก้าได้ครับ
หน้าตาของบัตรเข้าชม PRIMO PIAZZA ครับ
PRIMO PIAZZA ได้รับการเนรมิตอย่างพิถีพิถัน โดยการจำลองสถาปัตยกรรมจากหมู่บ้านโบราณอายุกว่า 500ปี ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของผืนป่าเขาใหญ่
ภาพบรรยากาศที่ PRIMO PIAZZA เขาใหญ่
"Barn" โซนที่รวบรวมเหล่าสัตว์สี่ขาขนปุยทั้งหลายเอาไว้ ทั้งเจ้าอัลปาก้าคอยาวตาโต (Alpaca) น้องแกะเมอริโน (Merino) สุดน่ารัก และดองกี้ (Donkey) ลาน้อยจอมซนที่เดินทางมาไกลจากประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่มีเจ้าเมอริโนอยู่ประมาณ 30 ตัว อัลปาก้า 20 ตัว แบ่งเป็นตัวผู้ 10 ตัวเมีย 10 ส่วนเจ้าดองกี้น่าสงสารหน่อยมีกันแค่ 2 ตัวเท่านั้น ตัวผู้ 1 ตัวเมีย 1 ที่นี่เขามีการดูแลสัตว์เป็นอย่างดี เลี้ยงอยู่ในโรงเรือนที่มีอากาศถ่ายเท มีพัดลมช่วยระบายอากาศ สัตว์แต่ละชนิดอาศัยอยู่อย่างไม่เบียดเสียด มีอิสระ และจะถูกปล่อยให้ออกมากินหญ้า พร้อมกับยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายในช่วงบ่าย 3 หรือ บ่าย 4 โมงเย็นของทุกวัน โดยช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูปพร้อมกับให้อาหารแบบใกล้ชิดได้
นำบัตรที่เราชื่อมาแลกอาหารได้ตรงนี้ครับ
เข้ามาด้านในเพื่อให้อาหารเจ้าอัลปาก้าครับ
มีมุมถ่ายรูปเยอะเลยครับ
เดินมาเหนื่อยก็สามารถแวะทานเครื่องดื่มได้ที่ "Primo Cafe" เป็นร้านขายเครื่องดื่มและขนมเค้ก บรรยากาศน่านั่งมาก ๆ โอ่อ่า ตกแต่งสวยงาม สามารถนั่งทานได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง หนาวนี้ใครที่อยากพาคนรู้ใจมาสวีทหวานแนะนำร้านนี้เลย สามารถนั่งจิบกาแฟ ละเลียดขนมเค้ก ชมวิวลานเพียซซ่าได้ตลอดทั้งวัน โรแมนติกสุด ๆ เสมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ในประเทศอิตาลีอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อออกจาก PRIMO PIAZZA เขาใหญ่ เดียวจะไปหาอาหารเที่ยงทานกันต่อครับ
03 The birder's Lodge เขาใหญ่
จาก PRIMO PIAZZA มาที่ร้าน The birder's Lodge ก็ง่ายมากครับ เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้ๆกันเดินมาแค่ 2 นาทีเท่านั้น
เมื่อพูดถึงเขาใหญ่หลายๆคนก็จะนึกถึงโรงแรมสวยๆ หรือร้านกาแฟเท่ๆ ตัวผมเองก็เช่นกันครับ ก่อนมาเที่ยวก็ได้หาข้อมูลร้านสวยๆ จนมาลงตัวที่ร้าน The birder's Lodge ด้วยการดีไซน์ร้าน แค่ขับรถผ่านก็อยากจะแวะแล้ว เดียวไปชมกันครับว่าร้าน The birder's Lodge จะเป็นอย่างไรบ้าง
The Birder’s Lodge (เดอะเบอร์เดอร์ส ลอดจ์) รีสอร์ทและร้านอาหารสุดฮิปสำหรับคนชอบชิว บ้านไม้สไตล์กระท่อมแบบยุโรป ตั้งอยู่ท่ามกลางกลางป่าไม้และขุนเขา ทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติกันอย่างใกล้ชิด ณ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ไม่ไกลจากกรุงเทพนี่เอง วิธีเดินทางมาก็ไม่ยากเลย
โดยร้านตั้งอยู่ที่ 282 หมู่ 10 ตำบล หมูสี อำเภอ ปากช่อง นครราชสีมา 30130 อยู่ใกล้ๆกับ PRIMO PIAZZA เลยครับ
ร้านดีไซด์ได้สวยแปลกตามากครับ นอกจากร้านกาแฟแล้วที่ The birder's Lodge ยังมีที่พักไว้บริการด้วยนะครับผม
ราคาที่พัก The birder's Lodge
XXS Type ราคา 3,000 บาท พักได้ 2 คน มี 1 หลัง
XS Type ราคา 3,800 บาท พักได้ 2 คน มี 2 หลัง
Small Type ราคา 4,500 บาท พักได้สูงสุด 4 คน มี 2 หลัง
(2 ห้องนอน 1 หลัง และ พักได้สูงสุด 4 คน 1 หลัง)
จะเป็นราคาเดียวกันทุกวัน รวมวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราคาจะรวมอาหารเช้า
กลับมาที่ส่วนของร้านอาหารกันต่อครับ ปกติถ้าเป็นวันหยุดคนจะมาทานกันเยอะมากเลยครับ แต่วันนี้ผมมาวันธรรมดาเลยเดินถ่ายรูปได้สะดวกหน่อย
เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับเค้าเตอร์ครับ สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้จากตรงนี้เลย สั่งอาหารจ่ายเงินแล้วก็เดินไปหาที่นั่งกันครับ ที่ร้านจะมีที่นั่งหลายส่วนให้เลือกเลย
ส่วนนี้จะเป็นโอเพนแอร์ครับ มีโต๊ะอยู่จำนวนหนึ่ง
บริเวณชั้น 2 ก็น่านั่งครับ สามารถชมวิวภูเขาได้ ยิ่งมาหน้าหนาวยิ่งได้บรรยากาศเลยครับ
ตรงนี้จะเป็นส่วนห้องแอร์ที่ชั้น 2 ครับ ใครชอบอากาศเย็นๆก็มานั่งข้างในได้ครับ
ผมสั่งกาแฟเป็นลาเต้เย็นธรรมดาครับ กาแฟก็หอมดีครับ
จานแรกเป็นไส้กรอกรวมครับ ได้เยอะมาก มีไส้กรอกทั้งหมด 4 แบบ จานนี้คุ้มมากครับ อร่อยดีด้วย
ข้ามผัดกากหมู ก็แปลกดีครับผมไม่เคยทานเลยสั่งมาลองดู ข้ามนุ่มกากหมูกรอบมาก ลงตัวๆ
รสชาติอาหารที่ร้าน The birder's Lodge เขาใหญ่ รวมๆแล้วรสชาติดีครับ ราคาก็ไม่ได้แพงจนเกินไป ตามมารตฐานแหล่งท่องเที่ยวอะครับ
หลังจากอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกันต่อครับ เห็นบริเวณด้านหน้าจะมีเหมือนโรงนาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เดียวเดินไปชมกันครับ
มาถึงแล้วครับตรงนี้จะเป็น " The Birder’s Lodge Farmer’s Market " ครับ
ตลาดนัดในโรงนาแห่งนี้ จะขายสินค้าท้องถิ่นที่มาจากธรรมชาติ เช่น พืชผัก ผลไม้ เห็ด และต้นไม้ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ก็เป็นชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง The Birder’s Lodge Farmer’s Market เปิดเฉพาะศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 10.00-17.00 น ครับ ผมมาวันพฤหัสเลยปิดครับ แฮ่ๆ
อย่างที่บอกครับว่า ทริปนี้เป็นทริปเที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน จุดหมายต่อไปเราจะเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมกันครับ
04 โรงแรม U Khao Yai
จากร้าน The Birder’s Lodge ไปยังโรงแรม U Khao Yai ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตรครับผมโรงแรม U Khao Yai กันครับ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ที่เขาใหญ่ครับ เลขที่ 99/22 หมู่ 1 หมูสี ปากช่อง นครราชสีมา เป็นโรงแรม 4 ดาว ที่ออกแบบสไตล์ฝรั่งเศสเหมือนกับเราอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียวเชียวครับ มีห้องพัก 63 ห้อง
ส่วนนี้คืออาคารหลักของโรงแรม U Khao Yai ครับ เป็นอาคาร 3 ชั้น ห้องพักทั้งหมดจะอยู่ที่ตึกนี้ครับ
มีจักรยานให้ยืมด้วยครับ ไม่เสียค่าใช้จ่าย เดียวเราเข้าไปเช็คอินกันครับ
จุดเด่นของโรงแรม U Hotels & Resorts ทุกแห่ง สามารถมาเช็คอินตอนไหนก็ได้ โดยจะคิดเวลาเข้าพักเป็น 24 ชั่วโมง เช่น เรามาเช็คอินตอน 2 ทุ่ม ก็สามารถเช็คเอาท์ได้ตอน 2 ทุ่มของอีกวันครับ ผมว่ามันดีมากๆเลยนะครับแบบนี้ ทำให้เรามีเวลาอยู่ที่โรงแรมได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคาค่าห้องที่จ่ายไป
Lobby จะอยู่ชั้นล่างสุดของโรงแรม เพดานสูงโปร่งตกแต่งสวยงามสบายๆ เป็นแบบ Open airs แต่ก็ไม่รู้สึกว่าจะร้อนอะไรเลยนะครับ ถ้ามาหน้าหนาวคงจะดีครับ เพราะบรรยากาศของโรงแรม การตกแต่ง มันทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย
ห้องที่ผมเข้าพักวันนี้เป็นแบบ Superior Room ครับ เป็น type เริ่มต้นของที่นี่
เปิดประตูห้องมาก็เจอกับภาพนี้ครับ สวยหวานที่เดียวเชียว ห้องนี้เป็นห้อง Superior Room เตียงเดี่ยวครับ โทนสีของห้องนี้จะออกเขียวอ่อนๆครับ
ถึงจะอยู่ที่ชั้น 1 แต่ก็มีระเบียงไว้ให้นั่งเล่นชมวิวนะครับ นอนเล่นบนเตียงมองออกไปเจอต้นไม้เขียวๆแบบนี้ก็สบายตาดีเหมือนกันนะครับ
เตียงนุ่มนอนสบายมีน้องแกะให้กอดด้วย (หรือแพะไม่แน่ใจ แฮ่ๆ) มีหมอนให้ถึง 6 ใบครับนุ่มมากๆ
โรงแรม U Khao Yai นั้นมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆครับ ใครมาเที่ยวหน้าหนาวแต่งตัวจัดเต็มถ่ายรูปออกมาเนียนว่าไปเที่ยวยุโรปได้เลยนะเนี้ย แฮ่ๆ
จากภาพมุมสูงจะเห็นภาพรวมของโรงแรมเกือบทั้งหมดเลยครับ เริ่มต้นจากที่จอดรถ เดินไปยังตัวโรงแรมที่เป็นอาคาร 3 ชั้น ส่วนบ้านเดี่ยวเป็นหลังๆนั้น จะเป็นคนละส่วนกับตัวโรงแรมครับ เป็นบ้านที่สร้างไว้ขาย เอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ
ชมรีวิวโรงแรม U Khao Yai อย่างละเอียดได้ที่ http://www.mu-ku-ra.com/2017/09/u-khao-yai.html
หรือสนใจจองห้องพักได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/u-khao-yai-3000010019783
หลังจากเช็คเอาท์จากโรงแรมแล้วเราก็จะแวะเที่ยวต่อก่อนจะกลับกรุงเทพกัน
05 บ่อน้ำผุดเขาใหญ่ หรือ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง
จากโรงแรม U Khao Yai มายังบ่อน้ำผุดเขาใหญ่ หรือ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ระยะทางไม่ไกลเลยครับประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางที่เราจะต้องผ่านอยู่แล้วตอนจะกลับกรุงเทพตัวผมเองมาเที่ยวเขาใหญ่ก็บ่อย แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามีสถานที่แห่งนี้อยู่ด้วย เห็นคนแชร์รูปบ่อน้ำผุดในเฟสบุคเห็นแล้วสวยมาก น้ำใสเหมือนอยู่ในสระน้ำเลย เลยคิดว่ามาเที่ยวรอบนี้ต้องแวะไปซักหน่อย
บริเวณทางเข้าด้านหหน้าจะมีที่จอดรถไว้ให้ครับ จอดได้ประมาณ 20 กว่าคันได้ครับ ไม่เสียค่าจอดนนะครับ ผมไปเที่ยววันธรรมดาที่จอดรถเลยโล่งแบบนี้ ถ้ามาเที่ยววันหยุดก็อาจจะคนเยอะหน่อย
เดินมาหน่อยก็จะเจอกับทางเข้าบ่อน้ำผุดเขาใหญ่ หรือ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ครับสามารถเดินเข้าไปได้เลยไม่เสียค่าเข้าชม ถ้าใครอยากได้บรรยากาศปิคนิคก็สามารถซื้ออาหารไปทานด้านในได้ โดยแถวๆที่จอดรถจะมีร้านอาหรให้บริการอยู่ มีส้มตำ ไก่ย่าง ขนม แต่สิ่งที่ห้ามนำเข้ามาทานด้านในก็คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอลครับ ฝ่าฝืนปรับถึง 4,000 บาทเลยนะครับ
เดียวเราเดินไปชมข้างในกันครับ ขวามือด้านบนก็คือถนนครับ สระน้ำผุด จะอยู่แนวถนนเลย
ข้อมูลคร่าวๆของบ่อน้ำผุดเขาใหญ่ หรือ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง
บ่อน้ำผุดธรรมชาติ ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเขตอำเภอปากช่อง คนแถวนั้นจะเรียกว่าน้ำผุด เป็นตาน้ำที่มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ ลักษณะของน้ำจะใสมาก และไหลอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำเยอะกว่าปกติ
สาเหตุที่น้ำใสก็เพราะว่า น้ำมาจากใต้ดิน ผ่านชั้นหินปูนที่มีแคลเซียมคาร์โบเนตสูง และมีคุณสมบัติเป็นด่าง ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนลง ส่วนสีเขียวใสนั้นก็มาจากคุณสมบัติในความเป็นด่างของน้ำนั่นเอง แต่ไม่ควรดื่มน้ำในที่แห่งนี้เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนิ่วในกระเพราะ ปัสสาวะได้
น้ำใสมากๆครับ เห็นแบบนี้เหมือนจะตื้น แต่จริงๆแล้วน้ำลึกนะครับ สามารถกระโดดน้ำลงไปเล่นได้เลย
เนื่องจากผมไปเที่ยววันธรรมดา ไม่มีคนเลย เดินถ่ายรูปได้สบายๆเลย
ตรงนี้จะเป็นพื้นที่สระที่กว้างที่สุดครับ แต่น้ำก็ลึกที่สุดเหมือนกัน จะเห็นว่าน้ำค่อนข้างจะใสมากๆ
ใครที่กำลังหาที่เที่ยวใหม่ๆที่เขาใหญ่ ก็เอาไว้เป็นตัวเลือกได้ครับ ไม่เสียค่าเข้าชมด้วย เดินทางก็ไม่ลำบาก มีที่จอดรถเยอะพอสมควร ยังไงก็ลองมาเที่ยวให้เห็นกับตาตัวเองกันนะครับ เมืองไทยมีที่เที่ยวสวยๆอีกเยอะเลย
เดียวเราจะไปแวะที่เที่ยวสุดท้ายก่อนนจะกลับกรุงเทพกันครับ
06 ปาลิโอ เขาใหญ่ (Palio Khao Yai)
จากบ่อน้ำผุดเขาใหญ่ไปปาลิโล ระยะเพียงแค่ 3 กิโลเท่านั้นครับชื่อของ Palio มาจากชื่อเทศกาลแข่งม้าที่โด่งดังแห่งเมือง เซียน่า ประเทศอิตาลี
นอกจากโครงสร้างที่โดดเด่น สวยงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว ภายในโครงการยังได้นักจัดสวนระดับแถวหน้าสุดของประเทศไทย คือ คุณอำนาจ คีตพรรณนา ซึ่งมีผลงานทางสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายในมากมาย เช่น บ้านพักท่านทูตประจำ W.T.O ที่เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ พระตำหนักสวนสุโขทัย บ้านสวนปาริจฉัตก์ เป็นต้น มาเนรมิตสวนสวยรายล้อมตัวอาคารร้านค้าให้โครงการสวยงามขึ้น
ลักษณะโครงการ งานสถาปัตยกรรมเป็นกลุ่มอาคาร 1 และ 2 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ กม.ที่17 ติดกับจุลดิศเขาใหญ่รีสอร์ทแอนด์สปา ภายในมีร้านค้าหลากหลายประเภทกิจการ เช่น ธนาคาร,ร้านอาหารสไตล์ Fusion Italian, ร้านกาแฟที่คัดสรรแล้ว, สินค้าตกแต่งบ้าน, ร้านไวน์, ร้านพืชผักปลอดสารพิษ, ร้านเครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย, ร้านขายของที่ระลึก, ศูนย์อาหารที่คัดสรรแล้วว่าอร่อยจริง และทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ บนเนื้อที่ 7 ไร่
ช่วงที่ผมไปเป็นวันธรรมดา คนน้อยมาก ใครชอบถ่ายรูปสามารถเลือกมุมได้สบายเลย ไม่มีใครมาแย่ง ฮ่าๆ
เดินไปเหมือนกับอยู่ในหมูบ้านสักแห่งในยุโรป
ภาพบรรยากากาศรวมๆที่ ปาลิโอ เขาใหญ่ (Palio Khao Yai)
ภาพบรรยากากาศรวมๆที่ ปาลิโอ เขาใหญ่ (Palio Khao Yai)
วันนี้มีน้องๆนักเรียนมาทัศนศึกษาด้วยครับ เลยทำให้บรรยากาสดูคึกครื้นหน่อย
ก็ถือว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาใหญ่อีกแห่ง ที่ควรจะแวะมาเดินเล่นถ่ายรูปกันครับ ไม่เสียค่าเข้าด้วย แม้ตอนนี้ร้านค้าจะเหลือน้อยลง
แต่มุมถ่ายรูปสวยๆก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมครับ
หลังจากนี้ก็ขับรถกลับกรุงเทพครับ ก็เป็นจบสำหรับทริป เที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน ซึ่งเพื่อนๆสามารถนำไปปรับใช้ได้ครับที่เขาใหญ่มีที่เที่ยวเยอะมากจริงๆ ให้ไปแค่วันเดียวก็คงจะไม่ทั่ว
ก็หวังว่ารีวิวเที่ยวเขาใหญ่นี้ จะเป็นประโยชน์สำหรรับใครที่หาข้อมูลอยู่นะครับผมไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าครับผม
....สวัสดีครับ...
น่าไปครับ
ตอบลบน้ำผุดมีให้เล่นตลอดทั้งปีไหมคะ
ตอบลบ