รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นโซนคันไซ #1 ออกเดินทางจากดอนเมืองด้วย AirAsia X ไปลง Kansai โอซาก้า
สวัสดีครับมาถึงรีวิวตอนแรกกันแล้วครับ สำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นของผมในปีนี้ โดยในครั้งนี้ผมก็ใช้บริการของแอร์เอเชียเช่นเดิมครับ เนื่องจากว่าราคาถูกที่สุดแล้วโดยผมได้ตั๋วมาในราคา 6,580 บาท สำหรับการเดินทางในทริปนี้ผมมีเวลาเที่ยวประมาณ 5 วันครับ โดยเดินทางออกจากกรุงเทพในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และกลับคืนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ (แต่ตอนจองตั๋วผมจองกลับวันที่ 8 ครับเพราะเครื่องออก เที่ยงคืนกว่า ซึ่งนับเป็นวันใหม่แล้ว)
พร้อมแล้วออกไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเลยครับผม
ผมเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณบ่ายสองโมงครับ เพราะได้รับเมล์ว่าไฟลท์ที่ผมจะไปนั้น เที่ยวบินดีเลย์ไป 3 ชั่วโมง เวลาออกใหม่นั้นเครื่องจะออกจากดอนเมืองในเวลา 18.00 น. ทำให้ไปถึงที่สนามบินคันไซดึกกว่าเดิมไปซะอีก แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะว่าคืนแรกต้องนอนสนามบินอยู่แล้ว
เค้าเตอร์เช็คอินของ AirAsia X นั้นจะอยู่ที่อาคาร 1 ครับ ช่องหมายเลข 4 เดียวเข้าไปเช็คอินกันครับ
เอกสารที่ใช้ในการเช็คอินก็มีแค่พาสปอร์ตครับผม ส่วนตัวผมนั้นได้สมัครบัตรเคดิตของแอร์เอเชียไว้ ซึ่งสามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี 20 กิโลกรัม (เฉพาะสนามบินที่ออกจากไทยเท่านั้น) เลยใช้สิทธ์ครับ
ผมนำประเป๋าเปล่าซ้อนไว้อีก 1 ใบเผื่อขากลับซื้อของฝากจะได้มีพื้นที่ขนกลับมา น้ำหนักขาไปเพียง 12.2 กิโลกรัมเท่านั้นครับ ส่วนเป้ถือขึ้นเครื่องนั้นสามรถเอาขึ้นได้โดยน้ำหนักต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
หลังจากทำการเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ Boarding Pass สำหรับใช้ขึ้นเครื่องมา 1 ใบครับ โดยรายละเอียดบนบัตรก็จะมีประมาณนี้ครับ ชื่อไฟลท์ XJ 610 เวลาเรียกขึ้นเครื่อง Boarding Time 17.20 น. ประตูขึ้นเครื่อง Gate : 15 เลขที่นั่งของเรา Seat : 29 K
ขั้นตอนต่อมาเราก็ต้องกรอกใบ ตม. ของประเทศไทยครับ ก็กรอกไปตามจริงครับ กรอกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
หลังจากเตรียมเอกสารทุกอย่างจนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าไปด้านในกันแล้วครับ โดยเราต้องไปตรงผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ จะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจเอกสารของเราอยู่ เราเพียงแค่ยื่นพาสปอร์ตกับตั๋วเครื่องบินของเราครับ
ขั้นตอนต่อมาก็จะเจอด่าน ตม. ครับซึ่งไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ก็ยื่นเอกสารให้เค้าตรวจ จากนั้นก็มองกล้องแล้วถ่ายรูป ก็เป็นอันเสร็จครับ เดินไปรอขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวญี่ปุ่นได้เลย
เมื่อเดินมาถึง Gate : 15 จะมีเจ้าหน้ามาตรวจตั๋วของเราอีกครั้งครับ จากนั้นก็นั่รอเรียกขึ้นเครื่องได้เลยครับผม
เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง ก็เตรียมพาสปอตร์ กับตั๋วให้ดูอีกครั้งครับ จากนั้นก็เดินไปขึ้นเครื่อง
เมื่อเดินถึงประตูขึ้นเครื่อง แอร์โฮสเตสก็จะมารอแนะนำว่า ที่นั่งของเรานั้นจะต้องเดินไปทางไหน
นั่งประจำที่เรียบร้อยครับ พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว
หลังจากที่เครื่องได้บินไต่ระดับแล้ว แอร์โฮสเตสก็จะนำใบ ตม. ญี่ปุ่นมาแจกครับ ก็กรอกให้เรียบร้อยครับ สำหรับวิธีการเขียนใบ ตม. ญี่ปุ่นนั้นสามารถดุได้จากลิงค์นี้ครับ
วิธีกรอกใบ ตม. และใบศุลกากร ประเทศญี่ปุ่น
หลังจากนั่งมาประมาณ 5 ชั่วโมงแล้วก็เดินทางมาถึงสนามบินคันไซแล้วครับ เดียวต้องเดินไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นกันครับ ออกจากเครื่องก็ให้เดินตามทางไปเลยครับ มันบังคับเดินอยุ่แล้วไม่หลงแน่นอน
เราต้องนั่งรถไฟเพื่อไปในส่วนของด่าน ตม. ญีปุ่น และส่วนที่รับกระเป๋าครับ นั่งไปแปปเดียวครับไม่นาน
หลังจากที่ออกมารถไฟก็ให้ลงบันใดเลื่อนมาด้านล่างครับ ก็จะเจอกับด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หลายคนจะกลัวตรงนี้มาก แต่ถ้าเรามาเที่ยวจริงๆแล้วก็อย่าไปกลัวครับ มีเอกสารทุกอย่าง เค้าให้ผ่านอยู่แล้ว
แม้เครื่องจะลงดึกแค่ไหน แต่แถว ตม. ก็ยังยาวอยู่ครับ ใช้เวลาต่อแถวรอประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงเลย
เมื่อถึงคิวผม ตม. ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ถามอะไรผมเลย ให้มองกล้อง แสกนนิ้ว เป็นอันเสร็จครับ ก็จะได้แสตมป์ของประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว โดยสามารถอยู่ในญีปุ่นได้เป็นเวลา 15 วันครับ โล่งอกไป
ผ่าน ตม. มาแล้วก็จะมาถึงส่วนของการรอรับกระเป๋าครับ กระเป๋าผมสีนี้เห็นมาแต่ใครเลย ฮ่าๆๆ หลังจากที่รับกระเป๋าเสร็จก็จะต้องผ่านในส่วนของศุลกากรครับ เราก็ยื่นใบศุลกากรให้กับเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นก็เดินออกไปด้านนนอกได้เลย
ก็เป็นอันว่าผมนั้นได้ผ่านเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์แล้วครับ พร้อมออกเที่ยวญี่ปุ่นในวันต่อไปแล้วครับ เดียวในตอนหน้าจะพาไปชมครับว่า มาถึงสนามบินดึกๆแบบนี้สามารถนอนตรงไหนได้บ้าง แล้วมีร้านอะไรให้เราซื้อของใช้ ของกินบ้างมั้ย
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น