.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
มาถึงรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ตอนที่13กันแล้วครับ หลังจากตอนที่แล้วพาไปเที่ยวกันที่พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) มาตอนนี้จะพาไปเที่ยวกันที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) กันครับ ศาลเจ้าเมจิเป็นอีกสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน เพราะนอกจากจะมาไหว้พระขอพรกันแล้ว บางครั้งอาจจะเจอพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นอีกด้วย
ศาลเจ้าเมจิ (ญี่ปุ่น: 明治神宮 Meiji Jingū) เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 เพื่ออุทิศถวายแด่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง
ตั้งอยู่ในเขตชิบุยะ กรุงโตเกียว พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าดิบเขามีต้นไม้ที่ต่างสายพันธุ์เป็นร้อยๆชนิดและมีมากกว่าแสนต้น เสมือนป่ากลางเมืองโตเกียว
พอรู้ข้อมูลคร่าวๆของ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)กันแล้วเดียวเราไปเที่ยวกันเลยครับผม
1.jpg)
การเดินทางมายังศาลเจ้าเมจินี้ เนื่องจากผมเดินทางมาจากพระราชวังอิมพีเรียล จึงใช้รถไฟใต้ดินสาย Chiyoda Line ขึ้นจากสถานี Hibiya (C09)มาลงที่ สถานี Meiji-jingumae (C03) ครับ โดยใช้ บัตร Tokyo Subway 2 Day เช่นเคยครับ
2.jpg)
เหมือนเดิมครับเดินไปตามป้ายสีเขียวของรถไฟสาย Chiyoda Line ครับ
3.jpg)
ใช้บัตร Tokyo Subway 2 Day แตะเพื่อเข้าไปด้านใน
4.jpg)
เราจะไปศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ซึ่งอยู่ที่สถานี Meiji-jingumae (C03) ตามรูปด้านบนต้องขึ้นรถไฟที่แพลตฟอร์มหมายเลข 1ครับผม
5.jpg)
พอนั่งมาถึงที่สถานี Meiji-jingumae (C03) หรือ Harajuku แล้ว ก็ให้เดินออกที่ทางออกหมายเลข 2 ครับ
6.jpg)
เดินตามป้ายทางออกหมายเลข 2 ได้เลย เพื่อจะขึ้นไปเที่ยวที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)
7.jpg)
เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้ว ก็จะเจอคนเดินเที่ยวกันมากมายเลยครับ เพราะแถววนี้ถือว่าเป็นแหล่งของวัยรุ่นญี่ปุ่นเลย
8.jpg)
เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้ว ให้เดินย้อนกลับมาอีกทางนึงครับ จะเจอสะพานข้ามทางรถไฟ เมื่อเดินข้ามสะพานมาเราก็จะถึงทางเข้าของศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) กันแล้ว
9.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
ทางเข้าศาลเจ้าดูร่มรื่นมากครับ ต้นไม้เยอะเหมือนป่ากลางเมืองเลย เดียวเราเดินเข้าไปด้านในกัน
10.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
ทางเข้าของศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) จะมีประตูไม้ Torii ขนาดใหญ่อยู่ ประตูนี้มีไว้เพื่อให้เรารู้ว่าได้เข้ามาถึงเขตศักดิ์สิทธิ์แล้วนะ และประตูนี้ยังเป็นเหมือนสัญลักษ์ของที่นี่ด้วยเนื่องจากมีคนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก
11.jpg)
ระยะทางเดินค่อนข้างไกลอยู่เหมือนกัน แต่อากาศเย็นๆบวกกับต้นไม้เยอะๆ ทำให้เดินได้เรื่อยๆไม่รู้สึกว่าเหนื่อยอะไร
12.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอกับถังสาเกจำนวนมากวางเรียงกันอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน
13.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
อีกฝั่งจะถังไวน์ที่ทำจากไม้
14.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
ก่อนจะถึงตัวศาลเจ้าก็จะพบกับประตูไม้ Torii อีกต้นหนึ่ง
15.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
เดินมาระยะทางไกลพอสมควรเราก็มาถึงตัวศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) กันแล้วครับ
16.jpg)
ก่อนจะเข้าไปด้านใน เป็นธรรมเนียมของที่ญี่ปุ่น จะต้องทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือ ป้วนปาก ก่อนที่จะเข้าไปในวัดหรือศาลเจ้า
17.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
บรรยากาศภายในศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)
18.jpg "ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)")
บรรยากาศภายในศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)
19.jpg)
ใครที่มาเที่ยวที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)แล้วสิ่งที่นิยมทำกันก็คือเขียนคำอวยพรลงใน อิมะ (Ema) ซึ่งจะเป็นแผ่นไม้เล็กๆ (ราคาแผ่นละ 500 เยน) เขียนแล้วก็อธิษฐาน หลังจากนั้นก็นำไปแขวนไว้บริเวณที่เค้าจัดไว้ให้ สังเกตุได้ว่าคนไทยนิยมมาขอพรกันมาก ดูได้จากภาษาไทยจะเยอะกว่าป้ายที่เขียนด้วยภาษาอื่น
20.jpg)
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)
ที่อยู่: 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya, Tokyo 151-8557 ญี่ปุ่น
เปิดเวลา 9.00 น. - 16.30 น. หยุดตามวันหยุดราชการจ้า
วิธีเดินทางไปศาลเจ้าเมจิ
นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย C-Chiyoda Line (สีเขียวเข้ม) / สาย F-Fukotoshin Line (สีน้ำตาลทอง) ลงสถานี C03/F15-Meiji-Jingumae ทางออก 2
นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line (สายวงกลม-สีเขียว) ลงสถานี Harajuku ทางออก Omote-sando Exit
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น